วันที่ 13 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ท. วัฒนา ยี่จีน  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุคนธ์  ศรีอรุณ ผบก.ภ. จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่ด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์  ซึ่งเป็นแนวเขตชายแดนพื้นที่ติดกับเขต ประเทศ กัมพูชา เพื่อสกัด ป้องปราม ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ & แก๊งค์ออนไลน์ข้ามชาติ โจรกรรมรถยนต์ รวมถึงยาเสพติด ซึ่งกำลังแพร่ระบาดหนักในขณะนี้ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความวิตกกังวล กลัวไม่ปลอดภัย  โดยขณะนี้ได้ร่วมจับมือ  บูรณาการฝ่ายปกครอง  ทหารตำรวจ  อาสาสมัครและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมหาแนวทาง  เพื่อสกัดกั้น ช่วยกันแจ้งเบาะแสหาทางป้องกันไม่ให้ไหลทะลักผ่าน  ประเทศไทยไปยังประเทศกัมพูชา และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และเป็นแหล่งหลอกลวงคนทั้งโลก  และจะต้องหมดไปจากพื้นที่ตำรวจภูธรภาค3 โดยใช้มาตรการ S&D ทำลาย-ยึดทรัพย์ ทุกกรณี 

โดย พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่า ได้กำชับสั่งกาาเดินหน้ากวดขันกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์ & แก๊งค์ออนไลน์ข้ามชาติโจรกรรมรถยนต์รวมถึงยาเสพติด ไม่ให้หนีเข้ามาตั้งเครือข่ายในประเทศไทย หลังรัฐบาลตัดไฟที่ส่งไปยังเมียนมา ส่วนมาตรการเข้ม กวาดล้างเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์& แก๊งออนไลน์ข้ามชาติโจรกรรมรถยนต์ ยาเสพติด ที่กบดาน  บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา หลังรัฐบาลมีคำสั่งตัดไฟฟ้าที่ส่งไปยังเมียนมาเพื่อกดดันกลุ่มอาชญากรรมดังกล่าว ได้สั่งการให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจ (สภ.) ในพื้นที่ชายแดน รวมถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด สุรินทร์ พร้อมกับชุดชานุมาน ประสานงานร่วมกับกองกำลังสุรนารี เพื่อเฝ้าระวังและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์& แก๊งค์ออนไลน์ข้ามชาติโจรกรรมรถยนต์ยาเสพติด อย่างจริงจัง โดยเน้นการหาข่าวเชิงลึกตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาตั้งเครือข่ายภายในประเทศ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

นอกจากนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยที่อาจเป็นเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ สามารถแจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ทราบได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่งตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เพียงเฉพาะเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายด้วย

ขณะนี้ กองกำลังสุรนารีได้ร่วมมือกับกองกำลังทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และฝ่ายปกครอง เพื่อปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งดำเนินการตามยุทธการ Seal Stop Save ที่เป็นแนวทางเดียวกับการปราบปรามยาเสพติดที่ตำรวจภูธรภาค 3 กำลังเร่งดำเนินการ 

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวอีกว่า "ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไป ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมสั่งการ ทางไกล(conference ) กำหนดกรอบ  นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศ ตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี  นำความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรี และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย ร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีมีอิทธิพล และยาเสพติด พร้อม แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์  และแก๊งออนไลน์ ข้ามชาติ ให้หมดไปจากสังคมไทย นั้น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และผู้ผลิตยา,ผู้ค้ายา รวมถึงโจรกรรมรถ คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง

 

ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมทั้งควบคุมการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจาก วงจรการค้ายาเสพติด อย่างถาวร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” และ Stop & Destroy คือทำลายล้าง S&D ทำลายขบวนการให้สิ้นซาก และตามยึดทรัพย์ทุกราย ตามแนวชายแดน ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน”  

จากการประเมินสถานการณ์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และแก๊งออนไลน์ข้ามชาติ ซึ่งขยายฐานจากเมียวดี เมียนมา  ติดกับอำเภอแม่สอด   จังหวัดตากไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน   รอยเขตตะเข็บ  พื้นที่ภาค 3 ขณะนี้ ตนเอง ได้สั่งการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่รัฐที่คอยอำนวยความสะดวกช่วยเหลือ กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์และแก๊งออนไลน์ ข้ามชาติ ว่าประเทศไทยต้องร่วมมือป้องปราม ปิดกั้น  ไม่ให้เป็นบ่อนทำลายความมั่นคง การกินดี อยู่ดี ของพี่น้องประชาชนโดยส่วนรวม

 

โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างที่ตนรับผิดชอบอยู่ขณะนี้  พร้อมกับยาเสพติดในรอบปี 2568 คาดว่าจะระบาดเข้ามาในประเทศ ขณะที่ยาเสพติดมีราคาถูก  และมีผู้เสพเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขกันอย่างแท้จริงและต้องจริงจัง มิฉะนั้นปัญหาเหล่านี้จะก่อให้เกิดผล  กระทบ ต่อความมั่นคงของประเทศชาติ ไม่ว่าทางด้านเศรษฐกิจ สังคม จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน แจ้งสายด่วน 191 หรือโรงพักใกล้บ้านท่าน ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส และขอความร่วมมือจากทุกท่านในการช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจใกล้บ้าน  กรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์และแก๊งการพนันออนไลน์ตรวจสอบแล้วพบเส้นทางการเงินโยงเครือข่ายไปทั้งประเทศตนเองเห็นว่าหลังจากนี้ ตนเอง ต้อง  บูรณาการร่วมมือกับทุกภาคส่วน  ทหารฯ ตำรวจฯ ฝ่ายปกครอง ประชาชนและหน่วยงานที่ มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมบูรณาการป้องปราม ป้องกัน  เพื่อสกัด ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และแก๊งออนไลน์ข้ามชาติหมดไปจากพื้นที่ ภาคอีสานตอนล่างโดยเร็ว