“กฤษฏา” สั่งเฝ้าระวัง พายุปาบึก ยังพ่นพิษ ฝนหนักถึง 8 ม.ค. แนวร่องพายุผ่าน ประจวบฯ ชุมพร สุราษฏร์ฯนครศรีฯ เตือนพื้นที่เสี่ยงท่วมซ้ำจากแม่น้ำล้นตลิ่ง พบ 14 จว. เกษตรกรเสียหายกว่า 2 แสนราย วันนี้ (7 ม.ค.62) นายกฤษฏา บุญราช รัฐมตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ศูนย์อํานวยการและบัญชาการสถานการณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ศอบ.กษ.) พายุโซนร้อน ปาบึก รายงานผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 ม.ค.นี้ ยังมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักในจังหวัดชุมพรตอนล่างและประจวบคีรีขันธ์ตอนบนของสุราษฎร์ธานี แนวเทือกเขาหลวงของจังหวัดนครศรีธรรมราช และคลื่นลมในอ่าวไทยและอันดามันยังคงมีกำลังแรง โดยเฉพาะแนวชายฝั่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ความสูงคลื่นประมาณ 2 เมตร โดยการปฏิบัติงานของหน่วยงาน กรมประทาน ยังเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม่น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชบุรี คลองบางสะพาน จังหวัดประจวบ คลองหลังสวน คลองท่าแซะ คลองท่าตะเภา คลองชุมพร จังหวัดชุมพร คลองท่าดี และพื้นที่ลุ่มต่ำอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.62 ถึงปัจจุบัน โดยปฏิบัติการในพื้นที่ได้รับผลกระทบสำคัญ จังหวัดนครศรีธรรมราช เครื่องสูบน้ำ 53 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 50 เครื่อง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง จังหวัดชุมพร เครื่องสูบน้ำ 5 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 62 เครื่อง ในส่วนกรมปศุสัตว์ จัดส่งหญ้าพระราชทาน จำนวน 2,360 ฟ่อน (47,200 กก.) ลงพืนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 960 ฟ่อน (19,200 กก). จังหวัดสงขลา 800 ฟ่อน (16,000 กก.) และจังหวัดนราธวิ าส 600 ฟ่อน (12,000 กก.) จัดหน่วยเฉพาะกิจสัตว์แพทย์เคลื่อนที่ จานวน 60 นาย ให้การช่วยเหลือในพืนที่นครศรีธรรมราช แจกจ่ายเสบียงสัตว์ 47,200 กิโลกรัม และถุงยังชีพสัตว์ 496 ชดุ ในพืนที่จงั หวัดนราธิวาส นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี และปัตตานี อพยพสัตว์ในพืนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 อำเภอ (ร่อนพิบูลย์ ท่าศาลา) 7 แห่ง โค 1,825 ตัว เกษตรกร 261 ราย ปศุสัตว์จังหวัดส่งทีมดูแลและเคลื่อนย้ายสัตว์เลียง (สุนัข แมว) ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถตดิ ต่อ ได้ที่ 075-356254 075-356-454 ทั้งนี้ ปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราชรับมอบบริจาคอาหารสนัข และแมวบิงโกสตาร์จากผู้มีจติศรัทธา บ.เพทโฟกัส ชมรมบิ๊กไบค์กรุงเทพ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ประกอบไปด้วยอาหาร สุนัข 50 กระสอบ อาหารแมว 50 กระสอบ รวมนาหนัก 2,000 กก. พร้อมกระจายลงในพื้นที่ ช่วยเหลือสุนัขและแมวได้รับผลกระทบ พร้อมออกคาแนะนำการเฝ้าระวังโรค คือ โรคปากเท้าเปื่อย คอบวม ฉี่หนู ขณะที่ กรมประมง กองตรวจการประมงจัดชุดเฉพาะกิจ จานวน 20 ชุด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ 223 นาย รถยนต์ 356 คัน เรือตรวจการประมง 54 ลา ดำเนินการชว่ ยเหลือผู้ประสบภัย กรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนเกษตรกรและสารวจความเสียหายเบื้องต้นออกคำแนะนาการดูแลยางพารา ปาล์มนามัน ไม้ผล ไม้ยืนต้น พร้อมทีมฟื้นฟูจังหวัด เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนเกษตรกร 6 จังหวัด กระบี่ นราธิวาส นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี ยะลา ระนอง และตราด จำนวน 7,654 ราย พื้นที่การเกษตรประสบภัย 14 จังหวัด เกษตรกรรวมทั้งสิ้น 207,717 ราย แบ่งเป็น ด้านพืช 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ตรัง ปัตตานี พัทลุง และชุมพร เกษตรกร 164,929 ราย พื้นที่ได้รับผลกระทบ 126,561 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 25,596 ไร่ พืชไร่ 2,984 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 97,981 ไร่ ด้านประมง 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ระนอง ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เกษตรกร 6,653 ราย พืนที่เพาะเลี้ยงสัตว์นาคาดว่าจะเสียหาย 22,364 ไร่ (บ่อปลา 12,484 ไร่ บ่อกุ้ง/ปู/หอย 9,880 ไร่) กระชัง 4,050 ตารางเมตร ด้านปศุสัตว์ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎรธ์ านี นราธิวาส ปตั ตานี และประจวบคีรีขันธ์ เกษตรกร 35,838 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 1,729,389 ตัว แบ่งเป็น โค- กระบือ 68,271 ตัว สุกร 63,720 ตัว แพะ-แกะ 13,711 ตัว สัตว์ปีก 1,583,687 ตัว เรืออประมง ประสบภัย 9 จังหวัดได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช ระนอง สงขลา ปัตตานี และตราด จำนวน 88 ลำ