“อัยการ” ถกปมหมายจับ “หม่องชิตตู่” เตรียมเคาะกับดีเอสไอออกหมายจับได้หรือไม่ 17 ก.พ.นี้ พิษร่วมเอี่ยว “แก็งคอลเซ็นเตอร์” สั่งย้าย “2นายตำรวจ

เมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ นำโดย นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เเละพนักงานสอบสวนดีเอสไอพร้อมด้วย ได้เดินทางไปสอบปากคำกับทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อสอบถามในประเด็นเกี่ยวกับกองกำลังของ พ.อ.หม่อง ชิตตู ผู้นำกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Army: KNA) หรือในชื่อเดิมคือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force: BGF) ตามคำแนะนำของพนักงานสำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ โดยที่สำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์เองก็ได้ส่งพนักงานอัยการไปร่วมสอบกับทางดีเอสไอด้วย โดยภายหลังสอบเสร็จสิ้นแล้ว

“ขั้นตอนต่อไปมีรายงานว่า วันนี้ทางสำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์จะมีการประชุมกันในประเด็นเรื่องการสอบเพิ่มดังกล่าว เเละจะนัดหารือกับดีเอสไอในวันที่ 17 ก.พ. 68 ซึ่งถ้าหากทางอัยการและ DSI มีข้อสรุปร่วมกันได้ ก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับ พ.อ.หม่อง ชิตตู กับพวกต่อไป”

มีรายงานว่า พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ลงนามคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ 24/2568 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วยปรากฏข่าวสารในสื่อมวลชนต่าง ๆ เผยแพร่ข่าวนักท่องเที่ยวถูกมิจฉาชีพหลอกลวงมาที่ประเทศไทยแล้วหายตัวไปบริเวณชายแดนประเทศเมียนมา อีกทั้ง มีการลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และอ.พบพระ จ.ตาก กรณีดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ของจ.ตาก ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.อ.บวรภพ เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการพิจารณาพฤติการณ์และหลักฐานเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด

เนื่องจากเป็นกรณีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อีกทั้งมีกรณีที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจได้ประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ หรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำความผิดทางวินัยหรืออาญา หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และมีให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 66 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบ ข้อ 6 (2) ข้อ 9 (2) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 จึงให้ พ.ต.อ.บวรภพ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผู้บังคับการอำนวยการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ปรัชญา ได้มีคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ 25/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน ใจความว่า ตามคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ 24/2568 ลง 12 กุมภาพันธ์ 2568 ให้พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 และในภาพรวมของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 รักษาราชการแทน ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รอง ผบช.ภ.6 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ตาก ได้ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดตาก ที่ 77/2568 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ด้วย ร้อยตำรวจโท มานพ ศิวาดำรงค์ สายงานปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรแม่สอด มีกรณีต้องสงสัยว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบหลบหนี เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและมีฐานะความเป็นอยู่ที่ร่ำรวยผิดปกติ อาจได้ทรัพย์สินมาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดตากได้สั่งให้มี การสืบสวนข้อเท็จจริงไปด้วยแล้ว

เพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และป้องกันมิให้ผู้นี้เข้าไปยุ่งเหยิงหรือ แทรกแซงการสืบสวนข้อเท็จจริง และเพื่อให้ การบริหารราชการในภาพรวมของตำรวจภูธรจังหวัดตาก เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 67 และ มาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และข้อ 9 (3) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 จึงให้ ร้อยตำรวจโท มานพ ศิวาดำรงค์ รองสารวัตรสายงานปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดตาก โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และให้รองผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดตาก รักษาราชการแทนผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เป็นผู้กำกับดูแลตามคำสั่งกรมตำรวจ (เดิม) ที่ 1212/2537 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2537 เรื่องมาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ และมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ

ทั้งนี้ตั้งแต่แบบนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ลงนามโดย พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รอง ผบช.ภ.6 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ตาก