วาเลนไทน์ ..วัยรักวัยรุ่น..ต้องรู้ทัน “ยาเสียสาว”หลังจนท.ออกกวาดล้างพบช่วงนี้จับกุมได้มาก ย้ำโทษคุกหนักถึง 20 ปี ทั้งผลิต ขาย และใช้มอมผู้อื่น

วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2568 ) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ขอย้ำเตือนวัยรุ่นให้ระมัดระวังอาจจะตกเป็นเหยื่อ “ยาเสียสาว” ซึ่งจากสถิติต่อปีพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ก่อเหตุจะใช้ยากับเหยื่อเพื่อหวังก่ออาชญากรรมไม่ว่าจะเพื่อรูดทรัพย์หรือล่วงละเมิดทางเพศ  โดยเฉพาะเพศหญิง ทั้งนี้ จากข้อมูลพบการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง ใช้ผสมกับน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อดื่มเข้าไปจะทำให้มึนเมา สะลึมสะลือ ระหว่างที่ยาออกฤทธิ์ก็จะสูญเสียความทรงจำชั่วขณะ รู้ตัวอีกทีอาจอยู่ในสภาพถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือเกิดอาชญากรรมอย่างอื่น 

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันตนเองจากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง ไม่กินหรือรับของจากคนแปลกหน้าตามสถานบันเทิงต่าง ๆ หากต้องเข้าห้องน้ำ กลับมาแล้วควรสังเกตภาชนะบรรจุว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยเจาะหรือรอยปิดด้วยเทปหรือผ่านการเปิดฝามาก่อน และเมื่อดื่มเครื่องดื่มแล้วพบว่ารสหรือกลิ่นของเครื่องดื่มเปลี่ยนไป ควรหลีกเลี่ยงการดื่มต่อ หรือเมื่อดื่มแล้วมีอาการแปลก ๆ หรือรู้สึกเมาหลังจากดื่มไปได้เพียงเล็กน้อย ให้รีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ไว้ใจ ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า สำหรับโทษของผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นผู้จูงใจ ชักนำ ยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ โทษจำคุก 2-10 ปี ปรับ 40,000-200,000 บาท หากกระทำต่อหญิงหรือต่อบุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ โทษจำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต ปรับ 60,000 – 500,000 บาท  ส่วนผู้ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ โทษจำคุก 1 – 5 ปี ปรับ 20,000 – 100,000 บาท และผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย โทษจำคุก 5-20 ปี ปรับ 100,000 – 400,000 บาท ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการและกำชับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามให้ออกกวาดล้างและจับกุมทั้งผู้ผลิตจำหน่ายและผู้ใช้ได้เป็นจำนวนมาก

“รัฐบาลตระหนักถึงความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน ขอให้ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ เฝ้าระวังร่วมกันสอดส่องดูแล โดยเน้นหนักในกลุ่มนักท่องเที่ยว ไม่ให้มีการมั่วสุม รวมถึงสถานบันเทิงต้องเข้มงวดไม่ให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ และที่สำคัญหากพบเห็นผู้กระทำความผิด ผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือ ขาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุกูลระบุ