ส่องธุรกิจโรงแรมไทยยุคเศรษฐกิจผันผวนผ่านมุมมอง'เทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์' 

จากผลการดำเนินงานในเดือนธันวาคม 2567 จนถึงมกราคม 2568 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงสิ้นปีมาชนกับช่วงเทศกาลตรุษจีนจึงทำให้มีตัวเลขที่ขยับขึ้นมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมาโตอยู่ประมาณ 20% อีกทั้งยังมีอานิสงส์ ของฟรีวีซ่า พร้อมกับมีการจองที่พักผ่านออนไลน์ทราเวลเอเยนต์ หรือ OTA ซึ่งเป็นการจองรยะสั้นลงเรื่อยๆ ด้วยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป จึงทำให้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่ออกมามีแนวโน้มที่ดี ซึ่ง นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์  นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA)  ได้สะท้อนมุมมองการตลาดในปี 2568 ได้อย่างน่าสนใจ

ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน

โดย นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์  นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรมจะต้องปรับตัวเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิตัล ซึ่งเวลานี้สมาชิก THA ประมาณ 80% ได้ปรับใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน ซึ่งสุดท้ายสังคมดิจิทัลได้เข้ามาลดต้นทุนได้เป็นอย่างมาก ซึ่งอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยในปี 2567 จนมาถึงปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 80% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในเมืองไทย คือ เชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัย และมีการบริการเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งในเวลานี้ทุกโรงแรมได้ปรับตัวเข้าสู่ดิจิตอลเข้ามาช่วยในการทำงาน   เนื่องจากสามารถลดต้นทุนในส่วนของพนักงานในบางตำแหน่ง อย่างเช่นพนักงานจองห้องพักต้องอยู่ 24 ชั่วโมง แต่พอมีระบบออนไลน์เข้ามาตัวเลขการจองไปอยู่หน้าจอออนไลน์เรียบร้อย ส่วนระบบบัญชีก็นำระบบ AI มาช่วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงานบริการก็ยังจำเป็นต้องใช้เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ประทับใจในตัวบุคคลนั้นๆ

ท่องเที่ยวเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล

ทั้งนี้ นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวถึงการปรับตัวของธุรกิจโรงแรมในไทยกับการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ว่า  ปรับตัวไม่มากนัก เพราะการท่องเที่ยวเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายภาครัฐของแต่ละประเทศมากเท่าใดนัก แต่กังวลเพียง ว่า นโยบายต่างๆ มันทำให้เกิดเศรษฐกิจของชาติอื่นๆ หรือว่า บางชาติเกิดผลกระทบให้เกิดรายได้น้อยลง ซึ่งก็จะเป็นเหตุผลให้มีการตัดความจำเป็นในการใช้ชีวิต อย่างการท่องเที่ยวต้องลดล ด้วยงบที่มีเปลี่ยนไปอาจจะเปลี่ยนเป็นเที่ยวในประเทศหรือเว้นไว้ก่อนแทน

อย่างไรก็ตามในส่วนของแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยยังเป็นไปได้ค่อนข้างดี ซึ่งต้องรอดูช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเทศกาลระดับโลกเป็นหมุดหมาย ที่ นักท่องเที่ยวหลายๆชาติในโลกจะต้องเดินทางมาหาประสบการณ์งานสงกรานต์ของไทยให้ได้ ซึ่งถึงเวลานั้นจำนวนวันหยุดที่มีหลายวัน และมีเดสติเนชั่นในหลายๆ พื้นที่น่าจะสร้างรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในปัจจุบันมีการแก้ปัญหาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนเป็นอย่างมาก ก็คิดว่าน่าจะทำให้ท่องเที่ยวกลับมาอยู่ในสภาพเดิมๆ ได้อีกครั้ง

ซึ่งในส่วนภาพรวมของการท่องเที่ยวความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ด้านโรงแรมก็จะมีการเพิ่มศักยภาพในการดูแลในเรื่องสถานที่ อาหารการกินให้สะอาดปลอดภัย ขณะที่สังคมสิ่งแวดล้อม และแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไปเจอก็ต้องพึ่งหน่วยงานที่สร้างความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือ ตม.ที่เกี่ยวข้องกับตรงนี้ เป็นการสร้างความั่นใจในเรื่องความปลอดภัยอย่างแท้จริง

แรงส่งต่างๆทำให้ท่องเที่ยวไทยไปได้

นอกจากนี้ นายเทียนประสิทธิ์ ยังกล่าวถึงประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประกวดนางงามมิสยูนิเวอร์ส ว่า เป็นเรื่องดีของประเทศไทย ในส่วนของโรงแรมก็ได้รับอานิสงส์จากทีมงานที่เดินทางมาในเมืองไทย โดยเฉพาะกิจกรรมของมิสยูนิเวอร์สที่จะต้องมีผู้ประกวดไปตามสถานที่ต่างๆ  โดยในวันสุดท้ายภาพของประเทศไทยในแต่ละสถานที่ก็จะถูกกระจายไปตามสื่อต่างๆ ออกไปทั่วโลกบนเวทีประกวด ซึ่งก็จะทำให้สถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

สำหรับประเทศไทยเวลานี้ ถือว่ายืนหนึ่ง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุดในโลก ดังนั้นจึงเชื่อว่า แรงส่งต่างๆ จะทำให้การท่องเที่ยวไทยยังไปได้ดีอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.จัดโปรแกรมหลายๆแบบ สอดรับกับการเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025  จัดเต็มอีเวนต์ สิทธิประโยชน์ กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว

พร้อมยกระดับมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ตอกย้ำความตั้งใจในการผลักดันประเทศไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ตลอดจนส่งสัญญาณความพร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกเที่ยวไทยคึกคักตลอดปี 2568   จึงน่าจะเป็นตัวสนับสนุนให้ท่องเที่ยวไทยดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างต่อเนื่อง