เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 11 ก.พ.68 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง ร่วมกันจับกุมนายตะวัน หรือโปเต้ อายุ 23 ปี อยู่ ม.6 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง 1.บุหรี่ไฟฟ้า กลิ่น Orange จำนวน  1 ตัว 2.บุหรี่ไฟฟ้า กลิ่น Peach oolong tea จำนวน  1 ตัว 3.บุหรี่ไฟฟ้า กลิ่น Strawberry raspberry จำนวน  1 ตัว 4.บุหรี่ไฟฟ้า  กลิ่น Strawberry kiwi จำนวน 1 ตัว 5.บุหรี่ไฟฟ้า (หัวพอต) กลิ่น Watermelon จำนวน  5 หัว 6.บุหรี่ไฟฟ้า (หัวพอต) กลิ่น Oolong lce tea จำนวน  4 หัว 7.บุหรี่ไฟฟ้า (หัวพอต) กลิ่น Lychee จำนวน 2 หัว 8.บุหรี่ไฟฟ้า (หัวพอต) กลิ่น Cola จำนวน  1 ตัว 9.บุหรี่ไฟฟ้า (หัวพอต) กลิ่น Mixberry จำนวน 2 หัว 10.บุหรี่ไฟฟ้า (หัวพอต) กลิ่น Watermelon จำนวน 2 หัว 11.บุหรี่ไฟฟ้า (หัวพอต) จำนวน 11 หัว โดยแจ้งข้อหาช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปให้เสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือของต้องจำกัดหรือของต้องห้าม หรือเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร”

จากการสอบถามนายตะวัน หรือโปเต้ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ตนเป็นเพื่อนของนายรษิภา หรือพรีม ซึ่งตนกับพรีมลงทุนซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาขายร่วมกันคนละ 20,000 บาท และซื้อมาครั้งหนึ่งไม่เยอะแต่หลายครั้งส่วนมากพรีมจะเป็นคนสั่ง สั่งในไลน์ออฟฟิเชียลและมาขายออนไลน์ออฟฟิเชียลเหมือนกันซึ่งเป็นไลน์ของร้านค้า ซึ่งตนมีหน้าที่รับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งมาและก็ขายออกไป พรีมจะรู้หมดว่าขายได้เท่าไหร่และให้น้องพ้อย ชื่อจริงธีรยุทธ เป็นคนไปส่ง ซึ่งตนเองทำมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2567  บุหรี่ไฟฟ้าได้กำไรไม่มากนัก ตนก็เคยดูดด้วยเป็นหัวพอต บุหรี่ไฟฟ้าไม่ดีต่อสุขภาพตนจะเปิดบัญชีเอาไว้โดยตรง พรีมจะรู้ว่าใช้ในการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเดี่ยวและตนก็รับสารภาพ ซึ่งตนเองไม่อยากทำแล้วและในวันนี้ตนเองได้นำบุหรี่ไฟฟ้ามาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ถ้าตนเองไม่เอามาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำงานกันยากขึ้นตอนแรกตนเองเก็บเอาไว้ดูดเองและคดีก็ปิดยากขึ้นไปอีก ตนก็อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย และตนเองก็ผิดพลาดมาแล้วตนรับชะตากรรมของตนเองแล้วถ้าใครจะขายอยู่ก็อยากจะให้เลิก ที่ตนเองรับสารภาพก็เป็นผลดีต่อตัวผมด้วย ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าที่อยู่ห้องพรีมจำนวน 30 หัวตนได้นำออกมาทิ้งเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568

ต่อมาด้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้ไปตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อต่างๆ พร้อมหัวพอตได้จำนวน 292 ชิ้นจากคอนโดที่นายรษิภา หรือพรีม โดยมีการเขียนชื่อผู้รับคือนายรษิภา หรือพรีม บรรจุอยู่ในกล่องใหญ่จำนวน 3 กล่องจึงได้ตรวจยึดเอาไว้พร้อมกับนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง และจะได้รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อหาเพิ่มกับนายรษิภา หรือพรีม ต่อไป

และในวันนี้ทางด้านศาลจังหวัดธัญบุรี รับฝากขัง ‘แก๊งสาดน้ำซุป’ 5 คดี ‘พรีม’ โดน 3 คดี ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงอุกอาจ  ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีหลายคดี น่าเชื่อว่า หากปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานสรุปข้อมูลฝากขัง และผลคำสั่งประกัน คดี ‘แก๊งสาดน้ำซุป’ ได้รับคำร้องขอฝากขัง จากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จำนวน 5 คดี  ดังนี้

1. ฝ.109/2568  พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง  ผู้ร้อง , นายอัครวินทร์  ผู้ต้องหา ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ , ความผิดต่อเสรีภาพ , ความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 

2. ฝ.110/2568  พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ผู้ร้อง , นายรษิภา หรือ ’พรีม‘ ผู้ต้องหาที่ 1 , นายชคัทพล หรือ ’โอชิ‘ ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชก , ความผิดต่อเสรีภาพ , ความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ  

3. ฝ.111/2568  พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ผู้ร้อง ’ นายรษิภา หรือ ‘พรีม’ ผู้ต้องหา ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชก , ความผิดต่อเสรีภาพ , ความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 

4. ฝ.112/2568  พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ผู้ร้อง , นายรษิภา หรือ ‘พรีม’ ผู้ต้องหา ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชก , ความผิดต่อเสรีภาพ , บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ,ความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 

5. ฝ.113/2568  พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ผู้ร้อง , น.ส.วรัญญา ผู้ต้องหาที่ 1 , นายดลลธี หรือ ‘พอล’ ผู้ต้องหาที่ 2 , นายนพคุณ ผู้ต้องหาที่ 3 , น.ส.อุ้มบุญ ผู้ต้องหาที่ 4 , น.ส.กันยาพัชร หรือ ‘พิมเจล’ ผู้ต้องหาที่ 5 ,นายภราดี ผู้ต้องหาที่ 6 ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชก ,ความผิดต่อเสรีภาพ , ความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ   

ผู้ต้องหาทั้งหมด ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงอุกอาจ และผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีหลายคดี ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน น่าเชื่อว่า หากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะหลบหนีและยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน