ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้ส่งแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชน กรณีหลังจากพบว่ามีการเชื่อมโยงบุคคลภายในสำนักงานกับคดีทรูไอดี ฟ้องร้องศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ ซึ่งศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา มีข้อความดังนี้
"สำนักงาน กสทช. แถลงการณ์ปกป้องสิทธิส่วนบุคคล คุ้มครองพนักงาน สำนักงาน กสทช. ตามความถูกต้องของกฎหมาย"
"ตามที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ลงโทษจำคุก ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งปัจจุบันคดียังไม่สิ้นสุดและยังอยู่ในระยะเวลาของการยื่นอุทธรณ์ตามกระบวนการของกฎหมาย และสืบเนื่องจากข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ปรากฏต่อมาว่ามีบุคคล/กลุ่มบุคคล ได้ดำเนินการอ้างอิงและเชื่อมโยงคดีดังกล่าวกับพนักงานของสำนักงาน กสทช. ด้วยการอ้างอิงให้ปรากฏทั้งชื่อ นามสกุล ตำแหน่งและรูปถ่ายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งประเด็นที่นำไปเชื่อมโยงมิได้เป็นประเด็นแห่งคดี อีกทั้งพนักงานคนดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องหรือปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาหรือขณะที่เกิดเหตุตามมูลฟ้อง"
"สำนักงาน กสทช.ขอประณามการกระทำดังกล่าว และขอเรียกร้องให้ผู้ที่นำข่าวหรือข้อมูลดังกล่าวออกสู่สาธารณะ ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม หยุดการกระทำและดำเนินการลบทำลายข้อมูลที่นำออกเผยแพร่โดยทันที ถึงแม้ว่าจะมีผู้ที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตามในคำพิพากษาของศาล ก็เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ต้องดำเนินการต่อไป แต่มิใช่เหตุผลที่จะก้าวล่วงหรือละเมิดบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือใช้วาจาที่ยุยง ส่งเสริมหรือก่อให้เกิดความเกลียดชังต่อบุคคลที่มิได้เกี่ยวข้องด้วยในประเด็นแห่งคดีนั้น"
พนักงานของสำนักงาน กสทช.ทุกคนมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่ จึงควรได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากการปฏิบัติหน้าที่นั้น
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. ที่จะยืนหยัดปกป้องสิทธิของพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ และไม่ถูกตัดสินจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดโดยปราศจากข้อเท็จจริงและกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคมต่อไป