จากกรณีที่ นายพรชัย  และนางสาวหทัยรัตน์ พ่อและแม่ได้พา ด.ย.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี  นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์  เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ละหานทราย  หลังจาก ด.ญ.เอ  ลูกสาว ถูกเพื่อนทั้งชั้น ม.1 และ ม.3 ประมาณ 10 คน รุมทำร้ายร่างกายภายในโรงเรียน และบังคับกราบเท้า  โดยมีการแชร์คลิปขณะที่ลูกสาวถูกทำร้ายว่อนโซเชียล ทั้งนี้ ในคลิปยังมีนักเรียนหญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนดูดบุหรี่ไฟฟ้าด้วย     

ล่าสุด วันที่ 11 ก.พ.68 พ.ต.อ.มนัสวุฒิ บรรยงค์  ผู้กำกับการ สภ.ละหานทราย พร้อมพนักงานสอบสวน  และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอละหานทราย รวมถึงครูฝ่ายปกครองกิจการนักเรียน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณห้องน้ำภายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ตามที่ปรากฎในคลิปที่นักเรียนหญิงรุมทำร้ายและบังคับให้นักเรียน ม.1 ก้มกราบเท้า หลังจากที่ผู้ปกครองเข้าแจ้งความ พร้อมทั้ง มีการเชิญผู้ปกครองนักเรียนมาร่วมพูดคุย และรับฟังข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นด้วย โดยจากการพูดคุยเบื้องต้น ทราบว่าสาเหตุเกิดจากความเข้าใจผิด  ว่า นักเรียน ม.1 ที่ถูกทำร้ายไปต่อว่าหรือนินทาลับหลังทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ จนเกิดการทำร้ายร่างกายกันและบังคับให้ก้มกราบเท้าขอโทษ ซึ่งผู้ปครอง และนักเรียนที่ก่อเหตุ ก็ได้ขอโทษพ่อแม่ และนักเรียนที่ถูกทำร้ายต่อหน้า ตำรวจ และคณะครูในโรงเรียน ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกทำร้ายก็ยกโทษให้  แต่ส่วนเรื่องกฎระเบียบของทางโรงเรียน และคดีการทำร้ายร่างกายก็เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการ

ผู้ปกครองของนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ที่ร่วมในการก่อเหตุและปรากฏในคลิป บอกว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนมาลูกสาวจะร่วมก่อเหตุทำร้ายเพื่อนในโรงเรียน  เบื้องต้นก็ได้ขอโทษทางผู้ปกครองและน้องที่ถูกกระทำแล้ว ส่วนเรื่องการเยียวยาก็ต้องพูดคุยกับอีกครั้ง ส่วนที่ทางโรงเรียนจะดำเนินการอย่างไรนั้น  ก็ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของทางโรงเรียน 

ขณะที่ นายพรชัย พ่อของนักเรียนหญิง ม.1 ที่ถูกรุมทำร้าย บอกว่า หลังจากที่ทางผู้ปกครอง และนักเรียนที่ก่อเหตุได้มาขอโทษ ส่วนตัวก็อภัยให้เพราะเข้าใจว่ายังเป็นเยาวชนอาจจะทำอะไรไปโดยไม่ได้คิดไตร่ตรอง แต่ก็อยากฝากให้ผู้ปกครองช่วยดูแลใกล้ชิดไม่ให้ก่อเหตุกับลูกสาวแบบนี้อีก  แม้ร่างกายจะไม่ได้บาดเจ็บมากแต่กระทบต่อสภาพจิตใจ ทั้งพ่อแม่และลูกสาว เบื้องต้นก็ได้เสนอให้ทางผู้ปกครองนักเรียนที่ก่อเหตุเยียวยาคนละ 20,000 บาท ก็จะไม่ติดใจเอาเรื่อง เพราะอยากให้โอกาสเด็ก  แต่ตำรวจ บอกว่า เป็นคดีทำร้ายร่างกาย ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ

ทั้งนี้ ก็อยากฝากให้ทางโรงเรียนได้เพิ่มความเข้มงวด  ในการดูแลเด็กนักเรียนให้มากขึ้น  รวมถึงอยากให้ติดกล้องวงจรปิดจุดอับต่างๆ ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก  

ด้าน นายอำนาจ ศิลป์ปักษา อาจารย์กลุ่มบริหารกิจการนักเรียน  บอกว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้แล้ว ทางคณะผู้บริหารก็กำลังจะมีการเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยและดำเนินการตามระเบียบ แต่มีการนำคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียลต่างๆ ก่อน ซึ่งปกติทางโรงเรียนก็มีมาตรการในการดูแลอยู่แล้ว แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์รุมทำร้ายร่างกายกันในโรงเรียน ก็จะได้เพิ่มมาตรการให้เข้มงวดและดูแลนักเรียนให้ใกล้ชิดมากขึ้น  ส่วนนักเรียนที่กระทำผิดในครั้งนี้ก็จะมีการลงโทษตามกฎระเบียบของทางโรงเรียน ส่วนเรื่องคดีก็ขึ้นอยู่กับทางตำรวจ.