แม่ลูกคู่เหมือน “หนิง ปณิตา” วันนี้ควงลูกสาวคนเก่ง “น้องณิริน ปณิริน” มาเปิดใจความสัมพันธ์ระหว่างคู่แม่ลูก ที่แม่หนิงเป็นสุดยอดนักสืบ ลูกทำอะไรแม่หนิงรู้หมด และเปิดเผยความเจ้าแผนการของน้องณิรินที่หาวิธีหลอกล่อขอทำสีผมจนสำเร็จ และเรื่องที่น้องณิรินแอบแหกกฎเหล็กคุณแม่ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี ดีเจพุฒ พุฒิชัย, ชมพู่ ธัณย์สิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 แม่ดุมั้ย?

ณิริน : ดุมากๆ ค่ะ หนูก็มีเถียงเยอะ ดื้อ มีร้องไห้ มีโวยวาย มีหมด

เหมือนคุณแม่เด๊ะ ทุกเวอร์ชั่น ปีนี้อายุเท่าไหร่?

ณิริน :  12 แล้วค่ะ

หนิง : (ถอนหายใจ) โตเร็วมาก แต่ต้องบอกว่าเป็นปีที่มีความสุขกับเขา เหมือนเป็นเพื่อน พูดคุยกันด้วยเหตุและผลได้มากขึ้น หนิงชอบเห็นเขายิ้ม เห็นแววตาเขามีความสุข เป็นเอเนอร์จี้ที่เหนื่อยแค่ไหนเราก็จะไหว แต่เวลาเห็นเขาเศร้า เขาดาวน์ ข้างในแทบระเบิดเลย 

ต่อให้รักเป็นแก้วตาดวงใจแค่ไหน มีงอน เพราะหลังๆ คนชมลูกสวยเยอะ?

หนิง : เดี๋ยวนี้ทุกคนไม่ค่อยชมเรา ไปไหนด้วยกันทุกคนก็จะน้องณิริน สวยจังเลย ทุกคนเหมือนมองข้ามเราไปเลย แต่ไม่ได้งอนจริงหรอกนะ เป็นอารมณ์ไม่อยากคุยด้วยแล้ว 

มีคนชมเยอะมั้ย ว่าสวย?

ณิริน : เยอะค่ะ (หัวเราะ) 

น้องณิริน มารยาทงามด้วย ตอนนี้มีความสามารถ ตอนนี้ฟอร์มวงดนตรีกับเพื่อนๆ?

ณิริน : ชื่อวง Clover Band เป็นวงเล่นสด มีสมาชิก 5 คน หนูเป็นนักร้องนำค่ะ เดี๋ยวจะมีเล่นกีต้าร์นิดนึงในอนาคต ทุกคนรอดูนะคะ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ แต่ยังไปไม่ถึงไหน ครูให้ไล่เป็นเบสิกก่อนเข้าคอร์สค่ะ (ณิรินโชว์ร้องเพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)

พี่หนิงร้องสักเพลง?

หนิง : เดี๋ยวๆ ฉันร้องเพลงไม่เป็น ร้องไม่ได้ (หัวเราะ)

ณิริน : วันหลังจะแชร์ลงอินสตาแกรม เผื่อทุกคนอยากดูนะคะ เวลาหม่ามี๊อยู่บ้าน บางครั้งเปิดเพลงยุค 90 แล้วก็จะร้อง กลุ้มใจ ไม่มี ล.ลิง (หัวเราะ) 

ให้คะแนนตัวเองจากวันแรกถึงวันนี้เป็นไง?

ณิริน : วันแรกรู้สึกว่าพัฒนาให้สัก 7 เต็ม 10 เรายังทำได้ดีกว่านี้ หนูจำได้เลยวันแรกหนูขึ้นโชว์ที่โรงเรียน หนูร้องเพี้ยนมาก หนูลืมเนื้อ เพี้ยนไปหมดเลย ทุกคนก็โซโล่ผิด เล่นผิดไปหมด จนไปแสดงงานวันเด็กที่ช่อง 7 ก็รู้สึกว่าพัฒนาได้ดีขึ้นมากๆ เพราะไฟดับ หนูร้องเพลงอยู่ดีๆ ไฟดับหมดเลย ทุกคนก็เล่นต่อ จนพี่เขาเชิญลงจากเวที 

ทำไมถึงอยากรวมตัวเป็นแบนด์ จุดเริ่มต้นเกิดจากอะไร?

ณิริน : ตอนนั้นหนูกับเพื่อนๆ หนู 5 คนโดนบูลลี่จากคนที่อยู่ในโรงเรียน โดนคนละแบบ หนูโดนเรื่องร้องเพลงเรื่องเต้น เพื่อนหนูโดนเรื่องเรียน 

เขาบูลลี่ลักษณะไหน?

หนิง : ย้อนกลับไปที่เราเคยสัมภาษณ์เทปที่แล้ว เขาโดนตั้งแต่เรื่องพ่อแม่เลิกกัน เขาอยากมีส่วนร่วมกับวงดนตรีกับเพื่อนสนิทเขาอีกกลุ่มนึง แต่เขาไม่ให้เล่น ใช้คำว่าห่วย ร้องก็ไม่เก่ง เต้นก็ไม่เก่ง ทำให้เขาเสียความมั่นใจ เหมือนเป็นเด็กที่ทำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องกิจกรรมเลย แต่อย่างที่บอกเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย เรารู้อีกทีตอนเขาแก้ปัญหาไปได้แล้ว เขาก็ไปชวนคนสนิทแล้วโดนเหมือนกัน แล้วมาฟอร์มวงเหมือนกัน แล้วเขามาบอกแม่ว่าหนูอยากเล่นวง แม่หาครูมาสอนหน่อยได้มั้ย เราก็ตกใจว่าลูกเราโดนอะไรมา แต่พอเรารู้ว่าโดนอะไรมา แล้วเขาพยายามเดินก้าวข้ามผ่านสเต็ปตรงนั้น เราก็มีหน้าที่สนับสนุนเขา ที่เหลือก็เป็นพวกเขาซ้อมกันเอง

หัวอกคนเป็นแม่ เวลาลูกมาเล่าว่าหนูโดนบูลลี่ เสียใจมั้ย

หนิง : ข้างในแทบน้ำตาไหลออกมา มันสั่นไปหมดเลย แต่เราต้องคีฟตัวเราให้นิ่ง ถ้าเราทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ลูกเราจะยิ่งตกใจ ในสภาวะที่เรารู้ สถานการณ์นั้นเขาดันผ่านมันไปได้แล้ว เราทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไม่ได้ เรายิ่งชื่นชมและขอบคุณ หนูแข็งแกร่งมาก มีอะไรบอกแม่ แม่พร้อมซัปพอร์ต แม่พร้อมช่วย แล้วก็ให้กำลังใจเขา 

คนที่เคยบูลลี่ณิริน ตอนนี้เราฟอร์มวง มีโชว์ไป 8-9 งานแล้ว เขาเป็นยังไง?

ณิริน : เขาก็ไม่ได้มาบูลลี่เราอีก หนูก็เป็นเพื่อนกับเขาได้ เขาก็ถามหนูว่าทำยังไงให้วงหนูอยู่ด้วยกันได้ดี หรือทำยังไงให้รักกัน ไม่ได้บูลลี่ ไม่ได้ทำอะไรกับหนู มาขอความช่วยเหลือแนะนำ

ณิรินเก่งเรื่องการพูด เป็นพิธีกรได้ เต้นก็ชอบ ชอบทำอะไรมากกว่ากัน?

ณิริน : หนูชอบเหมือนกันเพราะมันเป็นเวย์เดียวกัน แค่แสดงออกไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเลือกได้หนูชอบวง เพราะหนูว่ามันดัดแปลงดนตรีได้ทุกอย่างที่เราอยากจะเล่น หนูรู้สึกว่ามันช่วยให้หนูผ่านตรงนั้นมา หนูก็ชอบตรงนั้นที่สุด ชอบเป็นพิเศษค่ะ 

วันที่ลูกฟอร์มวง ขึ้นไปเล่นโชว์ แม่รู้สึกยังไง?

หนิง : น้ำตาไหลตลอดเวลา ต้องคอยเช็ด เดี๋ยวคนเห็น เป็นบ้าอะไรร้องไห้ตลอดเวลา  

ณิริน : หนูจำได้วันแรกที่หนูโชว์แม่ยืนเชียร์อัป

หนิง : ต่อให้ลูกทำจะดีหรือไม่ดี แต่เขาผ่านสเต็ปที่มีความทุกข์แล้วเขามีความสุขในสิ่งที่เขาทำ เราแฮปปี้มากที่สุด มากๆ มากจนโอ้ย มันตื่นเต้นไปหมด เตรียมทุกอย่าง ต้องรีบตื่น รีบแต่งตัว ซื้อดอกไม้ เหมือนเห่อ เหมือนลูกเราเป็นศิลปินดังไปแล้ว  

ทำไมถึงแพลนจะให้ลูกงดการเรียน?

หนิง : เขาเองเป็นคนที่อยากทำ เราเป็นคนสนับสนุนทุกอย่าง เด็กจะมีมุมที่อยากทำๆ แล้วก็มีมุมดื้อบ้าง มุมขี้เกียจบ้าง หนิงสอนณิรินเสมอว่าเราได้อะไรมาง่ายมาก ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องการใช้ชีวิตหรืออะไร ณิรินต้องเห็นคุณค่าของเงินเยอะๆ ในการที่เราจ่ายเงินจ้างครูแต่ละคนมาสอนมันใช้เงินเยอะนะ ถ้าลูกไม่ตั้งใจ ตอนนี้ลูกเป็นแล้วนี่ ลูกร้องได้แล้ว เต้นได้แล้ว แกะดนตรีได้แล้ว แต่ถ้าไม่คิดจะพัฒนาไปกว่านี้ หยุดไม่ต้องเรียนเลย แล้วก็โทรแคนเซิลครูก้อย เพราะเขาได้หมดเลย

ณิริน : ตอนนั้นเหมือนหนูมีละครเวทีแล้วหนูไม่ตั้งใจซ้อมไม่ตั้งใจทำอะไรเลย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เหมือนหนูขี้เกียจ แม่ก็บอกว่าพอ ไม่ต้องทำ แม่โทรไปแคนเซิลครูก้อย เดือนกว่าๆ เลยค่ะ จนหนูพิสูจน์ให้คุณแม่เห็นว่าหนูกลับมาตั้งใจแล้ว เริ่มซ้อม พยายามซ้อม พิสูจน์ให้เขาเห็น เขาก็เลยยอมให้หนูกลับมาเรียนกับครูก้อย ครูเรียนเต้น ครูเปียโนอะไรต่างๆ 

ตอนนั้นที่มีผลกระทบ มีแค่ณิรินคนเดียว?

หนิง : แค่เขาคนเดียว วงไม่ให้กระทบ เพราะไม่ให้เขาไปอะไรกับคนอื่น แต่สำหรับตัวเขาคนเดียว เขามีความสุขและอยากทำที่สุดคือเขาชอบเรียนเต้น ร้องเพลง ชอบเรียนเปียโน แต่ครูทุกคนที่สอนเขาจะกลับมาบอกว่าน้องณิรินเป็นเด็กหัวไวมากเลยนะ แต่ณิรินขี้เกียจ ครูบอกเองเลย แล้วเหมือนเวลาครูบอกให้ทำงี้ๆจะตั้งคำถามเยอะ เรารู้สึกว่าครูแต่ละคนที่มาสอนณิรินเขาคิวทองกันทั้งนั้น เราก็ต้องไปกราบ ไปอ้อนวอนขอให้เขามาสอนลูกเรา ไม่อยากให้ลูกไปเป็นภาระใคร ต่อให้เราจ่ายเงินให้ครูก็ตาม แต่เขาก็เมตตาที่จะดูแลลูกเรา ช่วงที่เรามีปัญหา ครูก็คอยซัปพอร์ตให้ณิรินเสมอ เราไม่อยากให้ลูกเราไปดื้อกับเขา มันมีเหตุและผลอธิบาย ที่สำคัญแม่ทำงานเหนื่อยมากกว่าแม่จะหาเงินมาให้ณิรินได้เรียนเยอะๆ อย่างนี้ ณิรินต้องเห็นคุณค่าของเงินนะ ถ้าณิรินไม่อยากพัฒนา ณิรินทำได้หมดแล้ว ณิรินก็เก็บเอาไว้ในอนาคตดีกว่า ตรงนี้ก็ไม่ต้องเอามาใช้

ณิรินเป็นไง?

ณิริน : หนูร้องไห้ กราบขอร้องหม่ามี๊ ขอพิสูจน์ครั้งสุดท้ายได้มั้ยขอกลับไปเรียน เพราะหม่ามี๊แคนเซิลทุกอย่างเลย หนูนั่งอยู่บ้านหนูไม่รู้จะทำอะไรเลย หนูก็เบื่อ ไม่มีอะไรทำ ก็ขอร้องหม่ามี๊ขอกลับไปเรียนได้มั้ย หนูจะพัฒนา หนูจะไม่ขี้เกียจ หนูจะไม่ตั้งคำถามเยอะ หนูจะทำทุกอย่างที่ครูบอกให้ทำ

นานมั้ยตอนหยุดอยู่บ้านเฉยๆ?

ณิริน : เดือนกว่า  

หนิง : เอาจริง เพราะในวัยเด็ก เราก็ชอบอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่กว่าหนิงจะได้มีโอกาสไปเรียน อย่างกับครูเล็ก ภัทราวดี หนิงต้องแลกด้วยการไปทำงานแล้วได้เงินมา แลกกับการทำความดีเพื่อให้แม่เจียดเงินก้อนนึงให้เรา เพราะเรามีพี่น้องสี่คน ถ้าแม่เจียดเงินก้อนนึงมาให้เราเรียนพิเศษหมายถึงต้องไปเดือดร้อนน้องอีก 3 คน เราได้ทุกอย่างด้วยความยากลำบากมากๆ ฉะนั้นณิรินมีแม่คอยให้ทุกอย่างในสิ่งที่ณิรินต้องการ ณิรินต้องเห็นคุณค่าสิ่งเหล่านั้นด้วย จะสอนและอธิบายให้ฟัง วันนี้ณิรินได้ง่าย ฉะนั้นณิรินต้องเห็นคุณค่าในสิ่งที่ณิรินได้ 

ล่าสุดน้องณิรินบอกว่ามีอะไรจะบอกคุณแม่ ถ้าคุณแม่ไม่สนับสนุน?

ณิริน : หนูบอกว่าถ้าหนูทำได้ หนูจะไปลองเทอมได้ หนูบอกแม่ตรงๆ ว่าการเรียนหนูเอา หนูไม่ได้เรียนแย่นะคะ แต่หนูแค่ไม่ชอบนั่งคิดเลข หนูชอบทางนี้จริงๆ แล้วหนูอยากให้หม่ามี๊สนับสนุนหนูต่อไป ไม่งั้นหนูโกรธหม่ามี๊นะ 

เห็นว่ามีอีกช็อต ถ้าแม่ไม่ดันจะเตรียมปรึกษาคนนึงให้เข้าวงการ?

ณิริน : ถ้าแม่ไม่ช่วย หนูจะถามป้าส้ม ป้าส้มบอกมีอะไรบอกป้าเลยนะลูก ปล่อยแม่เขาไป 

หนิง :   ล่าสุดเขาเห็นพี่ลียาไปเข้าค่ายแล้ว เพื่อนเขาบางคนไปเป็นเทรนนีแล้ว ทำเขายังไม่ได้ เขาก็พยายามหาข้อมูลว่าเขาจะไปสมัครตรงไหนยังไง เราก็ห้ามเขา เขาก็รู้มาว่ามีผู้ใหญ่บางคนมาถามไถ่เรา อยากได้ลูกเราไป แต่เราบอกว่าไม่เอา เรายังไม่ให้ เพราะเราเองไม่อยากสร้างภาระให้ใคร เราอยากให้เขาสมบูรณ์ก่อน เขาก็เลยบอกเราว่าเดี๋ยวเขาไปลุยกับป้าส้มเอง จะลุยเอง 

บอกแม่ให้มั่นใจ ถ้าณิรินได้ทำ จะทำได้ดีขนาดไหน?

ณิริน : ถ้าหนูมีโอกาสได้ทำ หนูจะทำได้ดีมากๆ เพราะหนูอยากเป็นในสิ่งที่หนูคิดไว้ หนูจะไปให้ถึง ถ้าหนูตั้งใจไว้หนูจะทำออกมาได้ดี แม้แม่ไม่ให้หนูจะไปคุยกับป้าส้มเอง  

มุมแม่ แม่ว่าไง ถ้าลูกสนใจเรื่องวงการบันเทิง?

หนิง : หนิงไม่มีอะไรห้าม แต่แค่ต้องการความรับผิดชอบ กว่าหนิงจะได้แบบทุกวันนี้ เรากระเสือกกระสนทุกอย่าง เรามาจากศูนย์ไม่ได้มาจากคนที่มีอยู่แล้ว เราผ่านทุกอย่างมาจากน้ำพักน้ำแรง สองมือสองขาของเรา เราก็อยากให้เขาดิ้นรนและทำด้วยตัวเขาเอง โดยไม่ใช้ความเป็นแม่ หรือขอป้าส้ม หรือความเป็นใคร เขาต้องพิสูจน์ตรงนี้ด้วยตัวของเขาเอง แล้วเขาจะรู้ว่าค่าตรงนี้ที่เขาได้มามันจะยิ่งใหญ่มาก แล้วเขาจะไม่ยอมเสียตรงนั้นไป เด็กสมัยนี้พอได้มาง่ายจะไม่เห็นค่าของที่ได้ ไม่รู้ว่ามีค่าแค่ไหน หนิงอยากให้เขาเห็นค่าของทุกสิ่งที่เขาได้รับ 

ณิริน : ตอนนี้เห็นแล้วค่ะ หนูบอกหม่ามี๊ไปแล้วว่าไม่ต้องช่วยคุยก็ได้ หนูจะเข้าไปออดิชั่นเอง แม่แค่ช่วยพาไปหน่อย  

หนิง : โอเคค่ะ (หัวเราะ)  

ณิริน : หม่ามี๊ไม่อยากให้หนูเข้าวงการบันเทิง อยากให้หนูเป็นหมอ

หนิง : หมอศัลยกรรม เรียนเพื่อหน้าแม่ (หัวเราะ) 

แม่ทำงานหนักตลอดเวลา มีน้อยใจมั้ย บางทีไม่มีเวลาให้เรา?

ณิริน : บางครั้งค่ะ หม่ามี๊ทำงานเยอะมากๆ แล้วไม่ค่อยรับโทรศัพท์ หนูก็น้อยใจว่าทำไมเขาไม่คุยกับหนูเลย

ทุกวันนี้หนิงตื่นเช้ามากมาจัดรายการ ไม่พักบ้างเหรอ ทำไมทำงานหนักขนาดนี้?

หนิง :   จริงๆ หนิงไม่ได้ทำอะไรมานานเหมือนกันนะ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หนิงเบรกงานหลายๆ อย่างโดยเฉพาะงานผู้จัดผู้ผลิตแทบไม่เห็นไม่ทำเลย หลายงานก็ไม่ทำ ถ้าตีว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ สองปีที่ผ่านมา หนิงทำงานแค่ 40 เปอร์เซ็นต์เองนะ หนิงเอาเวลาทั้งหมดอยู่กับเขาทั้งหมดเลย จนตอนนี้ทุกอย่างมันลงตัวแล้ว หนิงต้องกลับมาทำงานหนักๆ เพราะหนิงไม่กล้าฝากความหวังทุกอย่างไว้กับใคร หลักประกันในชีวิตลูกหนิง หนิงต้องการสร้างความมั่นคงด้วยตัวของหนิงเอง เพราะหนิงหวังว่าในอนาคตถ้าหนิงสร้างของหนิงได้ หนิงลำบากมาก่อน หนิงไม่อยากให้ลูกลำบาก ทุกวันนี้หนิงมีแรงอยู่ก็ต้องทำ แล้วอธิบายให้เขาฟังว่าสองปีที่ผ่านมา แม่เบรกไปเยอะจริงๆ นะ พาหนูไปเที่ยว อยู่กับหนูทั้งวันทั้งคืน ตอนนี้ต้องกลับมาทำจริงๆ เขาก็น่ารัก พยายามที่จะเข้าใจ ตอนหลังก็ไม่ค่อยดื้อ ไม่ค่อยงี่เง่า ไม่ค่อยเซ้าซี้ แต่รู้ว่าเขาน้อยใจนะ

ตื่นกี่โมง?

ณิริน : ตีห้า

หนิง : ไปส่งเขาทุกวันที่โรงเรียน ตื่นมาเตรียมกับข้าว ไปส่งเขาที่โรงเรียน แล้วก็ไปทำงานต่อ งานของหนิงก็จะบอกทุกคนว่าจะสิ้นสุดให้ได้ถึงเวลา 2 ทุ่ม เพราะ 2 ทุ่มต้องมาเอาณิรินนอนเองทุกวัน แต่ถ้าไม่ได้กลับเอาณิรินนอน ก็จะมีเลขา อาม่าคอยช่วยดูแลณิริน แต่หนิงก็เกรงใจพี่พลอย อาม่า ถ้าหนิงกลับยังไม่ถึง พี่พลอยกับอาม่าต้องอยู่จนกว่าหนิงจะกลับมา ถ้าเห็นหนิงลงรูปในไอจีงานราษฎร์งานหลวง บางทีหนิงไปแค่ถ่ายรูปแล้วหนิงกลับ เสร็จงานก็อยู่กับเขา เสาร์อาทิตย์พยายามไม่รับอะไรเลย ไปรับไปส่งเฝ้าเขาเรียน ใช้เวลาที่เขาเรียนทำงาน วันอาทิตย์ณิรินจะไปไหน อยากไปเดินห้างไหน ไปกินอะไร แม่ให้ณิรินเต็มที่แต่จันทร์-ศุกร์ขอแม่เต็มที่กับงาน แม่ทำเพื่อณิรินเลย ไม่ต้องน้อยใจ ต้องหายน้อยใจนะ

มีอะไรที่อยากทำ ขอคุณแม่ได้เลย?

ณิริน : ขอเจาะหูได้มั้ยคะ หนูมีข้างละสองรู แต่เทรนด์ตอนนี้ ขออีกนิดเดียว รูสุดท้ายแล้ว แล้วจะไม่เจาะอีก

หนิง : ไม่ได้เลยจริงๆ 

นอกจากเจาะหู มีทำสีผมวันเกิดด้วย?

ณิริน : หนูรู้สึกว่าวีรกรรมหนูเยอะมากเลยค่ะ ทุกคนน่าจะจำได้ รายการครั้งที่แล้วที่หนูทำสีแดง อันนั้นก็โดนหนักพอสมควร แต่อันนี้เหมือนแม่นั่งทำงานกับพี่เข้มอยู่ เวลาเขาเครียดๆ ทำงาน เขาก็จะเออๆ ไปๆ พี่เข้มก็บอกว่าแม่ น้องจะทำสีผมนะ แม่ก็บอกเออๆๆ ขอฉันทำงานก่อน หนูก็ไปจองร้านแล้วมันแคนเซิลไม่ได้ หนูสงสารที่ร้าน หนูเลยต้องไปทำ หนูเกรงใจเขา ไม่อยากแคนเซิลเขาหลายรอบ

หนิง : ไม่เคยอยากให้ทำสีผม อย่าลืมนะว่าถ้าเราเริ่มทำตั้งแต่วัยยังเด็กอยู่ พอเราโตขึ้นไปเป็นสาว อยากเป็นศิลปินไม่ใช่เหรอ อยากเป็นดารา วันนึงเราก็ต้องได้ทำ ถ้าเราเริ่มเร็วผมก็เสียเร็ว ณิรินเริ่มก่อนกาลเลย ตั้งแต่เพื่อนๆ ไม่ทำ พอช่วงเพื่อนๆ ทำ กลายเป็นว่าผมเขาเสียไปแล้ว ไปทำพร้อมเพื่อนอีกรอบล่าสุดก็กลายเป็นพังหมดเลย ต้องตัดผมสั้น 

ณิริน : หนูอยากตัดเอง สวย ตอนแรกผมยาวเท่าแม่เลย 

ณิรินมีเรื่องอะไรอยากบอกคุณแม่ ที่คุณแม่ยังไม่รู้?

ณิริน : เพื่อนมานอนบ้านหนูบ่อย หม่ามี๊ไม่ให้นอนดึก ไม่ให้กินข้าวตอนกลางคืนด้วยเดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อน แต่หนูกับเพื่อนนอนเที่ยงคืน ตีสองตีสาม ลงมาต้มมาม่ากิน

หนิง : ณิรินพูดออกอากาศไปแล้ว ไม่กลัวว่าแม่เพื่อนๆ คนอื่นเขาจะว่าเอาเหรอ 

ณิริน : แม่เพื่อนคนอื่นเขาไม่ว่า 

หนิง :   แม่บางคนเขาก็ว่า เขาอยากให้ลูกนอนเร็วๆ รู้มั้ยสิ่งที่ณิรินทำมา แม่รู้หมดแล้ว นิสัยหนิงทุกวันตื่นมากลางดึก ไม่ว่าตีสองหรือตีสี่ หนิงจะลงมาตรวจตราความเรียบร้อยทุกครั้ง เป็นคนต้องดูแลความเรียบร้อยตลอดว่ามีอะไรยังไงหรือเปล่า พอเราลงมาเห็นแล้วไฟไม่ได้ปิด 1 ดวง แอร์เพิ่งปิด ความเย็นยังอยู่ ในซิงค์ล้างจาน มีจานมาม่าอยู่ เศษขนมวางไว้ไม่เรียบร้อย หนิงรู้หมดแค่ไม่พูด บางครั้งไม่ได้อยากบ่น เพราะเรารู้ว่าเราบ่นเยอะแล้ว

ณิริน : ค่ะ (หัวเราะ) 

มีอะไรอยากบอก?

ณิริน : อยากบอกว่าหนูรักหม่ามี๊มาก และขอโทษถ้าบางครั้งหนูดื้อ หม่ามี๊คือไอคอนของหนูนะคะ 

หนิง : ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตวันนี้อุทิศแล้วเพื่อณิรินเลย ก็ยังพูดคำเดิมว่าที่แม่เปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่าง ทั้งโลกใบนี้ แม่มีหนูคนเดียว และทำเพื่อหนูจริงๆ ไม่ต้องน้อยใจ เสียใจ เวลาโดนแม่ดุ

ณิริน : ขอบคุณหม่ามี๊ที่อดทนและรักหนู ถ้าหม่ามี๊เลือกที่จะทำอะไร หนูก็จะเข้าใจและรักหม่ามี๊ตลอด 

 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ : https://youtu.be/em7Acrjl28c?si=_AtAFDAcJUml7pN9