วันที่ 11 ก.พ. 68 ที่ทำการพรรคกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และสส.พะเยา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องการปรับ ครม. สื่อเอาข่าวมาจากไหน ตามที่เป็นประเด็นว่า คนนั้นจะเข้า คนนี้จะออก พรรคโน้นจะไปพรรคนี้จะมา ต้องถามว่าข่าวมาจากไหน ตนถึงจะตอบคำถามต่อไปได้ แต่ในส่วนที่เราเกี่ยวข้อง คือพรรคกล้าธรรม เราชัดเจน ครอบครัวนี้ตนเป็นหัวหน้าครอบครัว และในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค โควตาที่พรรคเราพึงมีพึงได้ก็จะเป็นมติชัดเจนว่า เราจะให้ใครไปนั่งไม่ใช่คิดจะปลดใครก็ปลด โดยที่เขาไม่มีความผิดในขณะที่เขากำลังทำงาน เพื่อประโยชน์ของประชาชนในภาคการเกษตร ดังนั้นกระแสข่าวที่จะเปลี่ยนคนนั้นคนนี้ไม่มี ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องมาจากคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เป็นหลัก 

 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์ในฐานะเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเศรษฐกิจไทยจนถึงปัจจุบัน ประสบการณ์ทางการเมืองก็ได้สะสมมามากพอสมควร ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตก็สะสมมามากพอสมควร ดังนั้น เราศึกษาถอดบทเรียนข้อผิดพลาดมา พอเรามาอยู่ตรงนี้ ในฐานะหัวหน้าครอบครัว จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด สบายใจได้ว่าพรรคกล้าธรรมเราอยู่แบบพี่แบบน้อง ฟังเสียงส่วนใหญ่ ฟังเสียงสวรรค์ที่มาจากคณะกรรมการบริหารพรรค 

 

เมื่อถามว่า  หากได้สัญญาณจากนายกรัฐมนตรี พรรคกล้าธรรมจะเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส กลับไปเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเคยให้สัมภาษณ์ ปีนี้ตนอายุ 60 ปีแล้วมีลูก 8 คน มีภาระเยอะ การที่ตนจะวางรากฐานทางการเมืองให้พรรคกล้าธรรม ตนซึ่งเป็นประเภทสุขนิยม ถามว่าตนอยากเข้ามาหรือไม่ มันเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นถ้าตนให้คนในครอบครัวพรรคกล้าธรรมไปเป็นเสนาบดี แล้วเขาทำได้ดีอยู่แล้ว ตนก็จะไม่ขยับใครทั้งนั้น เพราะฉะนั้นพรรคนี้มีความเป็นอิสระ และการที่ใครจะได้ไปนั่ง เราก็ให้โอกาสทุกคนที่เป็น สส. ทุกคนมีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีหมด อยู่ที่ว่าใครมีผลงานชัดเจนอย่างไรก็มีโอกาส ไม่ใช่เฉพาะเอาตัวเราเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้เรื่องการปรับ ครม. ไม่ต้องไปถามนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรมแล้วให้มาถามตน