แรกปธน.ชมคนชนคน

นอกจากสร้างความเกรียวกราวในทางการเมืองทั้งในและต่างประเทศแล้ว ก็ยังถือเป็นผู้นำประเทศที่สร้างสีสันเรียกเสียงฮือฮาจากชาวโลกได้แบบรายวันอย่างไม่มีใครเหมือน และก็ไม่เหมือนใคร เพราะถึงขั้นต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ให้โลกต้องจดจำกันไปเลยทีเดียว

สำหรับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา หรือผู้นำคนปัจจุบันของชาวเมืองลุงแซม นั่นเอง ที่ลายเซ็นต์ลงนามของเขา เขย่าโลกครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่วันแรกที่ย่างก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาว ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกเข้ารับชมเกมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล หรือที่เรียกกันจนฮิตติดปากว่า เกมกีฬา “คนชนคน” ในศึก “ซูเปอร์โบวล์ (Super bowl)” ครั้งที่ 59 นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งมีขึ้นที่สังเวียนสนามกีฬา “ซีซาร์ส ซูเปอร์โดม” เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น โดยสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ ซึ่งกล่าวกันว่า เป็นสำนักสื่อมวลชนที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำหน้าที่ถ่ายทอดสด

ศึกคนชนคนดังกล่าว ก็เป็นการชิงชัยระหว่างทีม “แคนซัส ซิตี ชีฟส์” ฉายาทีม “หัวหน้าเผ่า” ซึ่งเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์ปีที่แล้ว คือ ครั้งที่ 58 แถมยังมีดีกรีเป็นถึง “แชมป์ 2 สมัย” และพ่วงด้วยแชมป์สายเอเอฟซีในปีนี้ กับทีมคู่แข่ง “ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์” สมญานาม “เหยี่ยวมรกต” ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์มาแล้ว 1 สมัย และเป็นแชมป์สายเอ็นเอฟซีในปีนี้

สถิติที่พบกันมาของทั้งสองทีม ก็ชนกันมาแล้ว 11 ครั้ง เป็น “แคนซัส ซิตี ชีฟส์” ชนะ 6 ครั้ง ส่วน “ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์” ชนะ 5 ครั้ง

พลันที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เดินทางไปถึง “ซีซาร์ส ซูเปอร์โดม” ได้รับเสียงเชียร์จากบรรดาผู้ชมในสนามกันอย่างคึกคัก

โดยประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดใจถึงทีมที่เขาเชียร์ ก็เป็นทีมหัวหน้าเผ่า “แคนซัส ซิตี ชีฟส์” นั่นเอง ซึ่งทีมนี้ก็ยังมีหวานใจของ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ราชินีเพลงคันทรี คือ “ทราวิส เคลซี ไทด์เอนด์” เป็นผู้เล่นในทีมด้วย และแน่นอนว่า “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ก็มาร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ ถึงขอบสนามด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ก็มีรายงานว่า ทันทีที่ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” เข้ามาในสนาม ได้ถูกผู้ชมในสนามโห่เอา คาดว่า ผู้ชมที่โห่ส่วนหนึ่งเป็นแฟนานุแฟนของประธานาธิบดีทรัมป์ หรือไม่ก็เป็นพลพรรครีพับลิกัน ที่ไม่พอใจ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” สนับสนุนรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรคเดโมแครต ในการสู้ศึกเลือกตั้งที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ก็ยังคาดว่า เป็นเพราะกองเชียร์ของทีมอื่นๆ ที่เข้ามารับชม ซึ่งไม่พอใจ แกมความหมั่นไส้ ที่มีต่อ “แคนซัส ซิตี ชีฟส์” อันมีหวานใจของ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” เล่นอยู่ด้วยนั้น ทำให้กรรมการตัดสินค่อนข้างลำเอียงให้แก่ทีม “แคนซัส ซิตี ชีฟส์” จนได้เปรียบในการแข่งขันกับทีมอื่นๆ เพราะเห็นแก่ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ที่ช่วยดึงเรตติงของเกมกีฬาชนิดนี้ให้มานิยมในหมู่อเมริกันชนคนรุ่นใหม่ และเป็นเหตุทีม “แคนซัส ซิตี ชีฟส์” ได้ผ่านทะลุจนถึงรอบชิงชนะเลิศ

ย้อนกลับไปในทางฝั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ถึงแม้ว่าเขาบอกว่า เชียร์ทีมใด แต่เขาก็ยกย่อง “ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์” ว่าเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน

เมื่อไปถึงอัฒจันทร์ ประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมคณะ ซึ่งมี “อิวานกา ทรัมป์” ร่วมขบวนไปด้วย ก็ได้ยืนเคารพธงชาติ โดยในประเด็นเรื่องการยืนเคารพธงชาติในศึกซูเปอร์โบว์ลนี้ เมื่อครั้งที่นายทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก ได้มีการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ จากการที่นักกีฬาผู้เล่น ไม่ยืนเคารพธงชาติ เพื่อประท้วงในเหตุการณ์ที่ตำรวจทารุณกรรมจนถึงแก่ชีวิต ในระหว่างการจับกุมที่เมืองมินนิแอโพลิส รัฐมินนิโซตา เมื่อปี 2020 (พ.ศ. 2563) ซึ่งทาง “ลีกอเมริกันฟุตบอลอาชีพในสหรัฐฯ” หรือ “เอ็นเอฟแอล” ก็น้อมรับการประท้วงดังกล่าว จนทางนายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น ออกมาตอบโต้ด้วยความไม่พอใจว่า จะไม่รับชมการถ่ายทอดเกมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลของเอ็นเอฟแอลด้วยเช่นกัน

ต้องถือเป็นการหวนมาคืนดีระหว่างเกมกีฬาประจำชาติชนิดนี้กับประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กลับมาทำเนียบขาวในภาค 2.0 เช่นนี้เช่นกัน ถึงขนาดที่ “ทราวิส เคลซี ไทด์เอนด์” หวานใจของ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ศิลปินเพลงคู่ปรับของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้เล่นในทีมที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาบอกว่า ส่งเสียงเชียร์นั้น กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เดินทางมารับชมถึงขอบสนามเป็นครั้งประวัติศาสตร์อย่างครั้งนี้เลยจริงๆ

ขณะที่ การเบรกพักครึ่งของเกมการแข่งขัน ก็มีการแสดงดนตรี โดยในปีนี้ เป็น “เคนดริก ลามาร์” ศิลปินเพลงฮิปฮอป ที่เพิ่งกวาดรางวัลแกรมมีในปีนี้มาถึง 5 รางวัล รับหน้าที่สร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชมกว่า 73,000 คนในสเตเดียม

ส่วนผลการแข่งขันหลังขับเคี่ยวกันมาถึง 4 ควอเตอร์ๆ ละ 15 นาที ปรากฏว่า “เหยี่ยวมรกต” ดับฝัน “หัวหน้าเผ่า” ไม่ให้ครองแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ด้วยคะแนนรวมทั้ง 4 ควอเตอร์ 40 ต่อ 22 คะแนน พร้อมกับทำให้ทีมคว้าแชมป์มาครองได้เป็นสมัยที่ 2 อย่างเต็มภาคภูมิ สำหรับเกมการแข่งขันนัดชิงครั้งประวัติศาสตร์นัดนี้ ที่มีประธานาธิบดี ผู้นำประเทศมานั่งเป็นเกียรติรับชม