“ภูมิธรรม” เตือน “ฝ่ายค้าน” อภิปรายพาดพิง “คนนอก” ข้อบังคับสภาฯ-กฎหมายไม่คุ้มครอง ด้าน “ชูศักดิ์”ย้ำระวังถูกฟ้อง มั่นใจกรอบอภิปรายไม่เกิน 2 วัน “วันนอร์” ย้ำสส.ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าบุคคลทั่วไป จ่อชงวาระด่วนเข้าสภาฯชี้ชะตา “ปูอัด” ส่วน“เลขาฯสภาฯ” คาดโหวตอนุมัติหมายจับ ได้หรือไม่ 20 ก.พ.นี้ ยันหากลาออกเองขาดสมาชิกภาพ ไร้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ขณะที่ “กลุ่มประชาชนร่างรธน.”ยื่นขอเสียง สว. 1 ใน 3 หนุนแก้ รธน.ถกประชุมร่วมรัฐสภา13-14 ก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้าน เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า หากคิดว่า รัฐบาลมีจุดบกพร่องตรงไหน ก็ดูตามประเด็น หากไม่ มีประเด็นอะไรจะใช้เวลาแค่วันเดียวคงพอ แต่หากมีประเด็นที่จะอภิปรายเราก็ไม่มีปัญหา จะใช้เวลากี่วันก็ได้ ให้ดูตามความจำเป็น
เมื่อถามว่าการอภิปรายครั้งนี้ ดูเหมือนจะมุ่งประเด็นไปที่คนนอก คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การอภิปราย ไม่ใช่จะอภิปรายใครก็ทำได้ เพราะมีกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับสภากำหนดอยู่ จึงขอให้ฝ่ายค้านตรวจสอบทบทวนให้ดี ถ้าไปอภิปรายคนนอก ข้อบังคับสภาและกฎหมาย ไม่ได้คุ้มครอง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ที่มีออกมามากในช่วงเวลานี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มาจากสื่อ ฟังครั้งแรกก็มาจากที่สื่อเสนอ ส่วนคนมีอำนาจปรับจริง คือนายกรัฐมนตรี และตนยังไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นสื่อควรเริ่มต้นจากฐานข้อมูลที่เป็นจริง หากจะวิเคราะห์ก็วิเคราะห์ไป แต่ถ้ามาถามพวกเรา บอกได้ว่าเราไม่มีปัญหาอะไร
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายในวันที่ 27 ก.พ.นี้โดยขอกรอบเวลาในการอภิปราย 5 วัน ว่า เท่าที่มีประสบการณ์มา ไม่มีหรอก 5 วัน เต็มที่ไม่เกิน 2-3วัน แต่ถึงอย่างไรก็สุดแท้แต่วิปจะตกลงกัน แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะใช้เวลาถึง 5 วัน
เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาลจะพร้อมที่จะเปิดให้มีการอภิปรายช่วงไหนนายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางรัฐบาล ก็ต้องมีการหารือกันว่าจะเป็นช่วงเวลาใดที่สะดวก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า นายทักษิณไม่ได้รับการคุ้มครองจากสภาอยู่แล้ว เพราเป็นคนนอก และข้อบังคับสภาก็ห้ามพูดถึงบุคคลภายนอก
เมื่อถามว่าหากนายทักษิณ ถูกพาดพิงสามารถฟ้องร้องฝ่ายค้านได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ ยอมรับว่า แน่นอน สามารถฟ้องได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา
ผู้สื่อข่าวเลยถามแบบแซวๆว่านายทักษิณ จะสามารถเข้าไปนั่งหลังบัลลังก์ประธานสภาได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ หัวเราะ พร้อมระบุว่า ก็รู้อยู่แล้ว ท่านจะเข้าไปได้อย่างไร
นายชูศักดิ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ได้ยินจากสื่อ แต่ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน
เมื่อถามว่า ระยะเวลาการทำงาน 6 เดือน เพียงพอที่จะต้องปรับครม.แล้วหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถวิจารณ์ได้ เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ตนได้ยินเพียงจากสื่อ และเข้าใจว่าสื่อวิเคราะห์กันไปเอง
เมื่อถามว่ามีบางพรรคร่วมรัฐบาลอยากปรับใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถวิจารณ์ได้ เพราะไม่ได้ยินข่าวอะไรมาเลย ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการปรับครม.การตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีจะต้องเข้มข้นเหมือนครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตราบใดที่รัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ แนวคิดยังเป็นแบบนี้ ก็คงจะต้องตรวจเข้มข้นเหมือนเดิม ถือเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อถามว่าหากพรรคกล้าธรรม(กธ.) เสนอ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค กธ. เข้ามาเป็นรัฐมนตรี จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถวิจารณ์ตัวบุคคลได้ และไม่อยากก้าวล่วง เพราะจะปรับครม.หรือไม่ก็ยังไม่ทราบ ส่วนตัวบุคคล ตนก็ไม่สามารถวิจารณ์ได้ เพราะเราไม่ใช่คนที่มีอำนาจชี้ขาด
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากตั้ง ร.อ.ธรรมนัส เหตุการณ์จะซ้ำรอยการตั้งนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นตำแหน่ง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ที่คนตั้ง อยู่ที่คนพิจารณา แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคิดที่จะปรับครม.เลย ต้องปล่อยให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เขาตัดสินใจ
เมื่อถามว่าในฐานะทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทย จะต้องมีคำแนะนำเรื่องการพิจารณาคุณสมบัติของรัฐมนตรีหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องทำรัฐธรรมนูญให้เคลียร์ ทุกอย่างจะจบได้ต้องมีมาตรฐาน อะไรคือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตราบใดที่ประเด็นนี้ไม่เคลียร์ก็เถียงกันได้ตลอด จึงอยากถามว่าหากยังไม่มีเกณฑ์มาตรฐาน ใครจะเป็นคนวัด
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ฐานข่มขืนสาวชาวไต้หวันว่า ยังไม่ได้รับหมายจับ ถ้าได้รับหนังสือจะรีบดำเนินการโดยด่วน แต่ถ้าเป็นคดีที่เข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา149 ที่ระบุว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือ ไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 -20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต” ประธานสภาไม่จำเป็นต้องหารือในที่ประชุมสภา เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมได้เลย แต่ต้องเป็นหนังสือจากศาล แต่ถ้าเป็นหนังสือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียว จะต้องหารือที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ ซึ่งเมื่อมีหนังสือมาถึงต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมภายใน 15 วัน โดยมาถึงวันนี้น่าจะบรรจุเข้าที่ประชุมได้ในสัปดาห์หน้า โดยจะบรรจุเป็นเรื่องด่วนเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสภา
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า สส.เป็นคนที่ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าบุคคลทั่วไป แต่อย่างไรต้องดูข้อเท็จจริงในหนังสือที่จะส่งมาก่อนว่าเป็นอย่างไร
ด้าน ว่าที่ร.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หมายจับของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ข้อหาข่มขืนนักท่องเที่ยวหญิงชาวไต้หวัน ยังมาไม่ถึงสภาฯ เพราะตามขั้นตอนสภ. เชียงใหม่จะส่ง หมายจับของศาลไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหนังสือเพิ่งถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงคาดว่ามาถึงสภาฯ ไม่วันที่ 10 ก.พ. ก็ 11 ก.พ. นี้ เพราะต้องผ่านขั้นตอนคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หรือรองผบ.ตร. ก็จะทำหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขออนุญาต พิจารณาคดีระหว่างสมัยประชุม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 วรรค 1 ทั้งนี้เมื่อหนังสือมาถึงทางสำนักประชุมก็จะนำเสนอประธานสภาฯ เพื่อขออนุญาตบรรจุวาระการประชุมในวันที่ 20 ก.พ.เป็นเรื่องด่วน เพราะวันพุธ เป็นวันพิจารณากฎหมาย
เมื่อถามว่า หากนายไชยามพวานลาออก ไม่ต้องพิจารณาเรื่องนี้ใช่หรือไม่ ว่าที่ร.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า ถ้าลาออกก็ถือว่าขาดสมาชิกภาพทางสภาฯก็ไม่ต้องพิจารณา การคุ้มกันต่างๆจะหมดลง แต่ตอนนี้อยู่ในระหว่างชั้นการสอบสวนยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ยังไม่ได้ฟ้องศาล แต่ทันทีที่สภาฯอนุมัติให้จับเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าควบคุมตัวนายไชยามพวาน ได้ทันที
เมื่อถามว่า มองว่าช้าไปหรือไม่ที่บรรจุวาระดังกล่าวในวันที่ 20 ก.พ. ว่าที่ร.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า เป็นขบวนการตามปกติ เนื่องจากสัปดาห์นี้มีประชุมร่วม อย่างไรก็บรรจุไม่ได้อยู่แล้ว ต้องรอสัปดาห์หน้า
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ได้มีสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วย นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ นายพิชาญ พรศิริประทานและนายสุทนต์ กล้าการขาย รับหนังสือจากกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ นำโดย นายธีรัตน์ พณิชอุดมพัชร์ เพื่อขอให้ สว.เห็นชอบในการ พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ ให้ได้เสียงสว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา หรือต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. จำนวน 67 คน เพื่อช่วยให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้โดยเร็ว
นายธีรัตน์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจที่มีต่อประชาชนและยืนยันถึงเป้าหมายในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน ตัวแทนกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ จึงขอกราบเรียนเชิญประธานวุฒิสภา และสมาชิกวุฒิสภา เข้าร่วมกิจกรรม “ผ่าน 256 สักที อยากมี สสร.เลือกตั้ง” เพื่อพบปะประชาชนและแสดงวิสัยทัศน์ต่อการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านเวที “รัฐธรรมนูญใหม่เป็นจริงได้” ในวันที่ 13 ก.พ. เวลา 18.00 น. นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวทางกลุ่มฯ จะร่วมเดินขบวนมายังอาคารรัฐสภาเพื่อติดตามรับฟังการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา พร้อมทั้งจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การจัดเวทีเสวนา การแสดงดนตรี กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ การออกร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และซุ้มกิจกรรมของเครือข่ายภาคประชาชน ณ อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา)
ด้านนายพิสิษฐ์ กล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวเพื่อนำกราบเรียนต่อประธานวุฒิสภาถึงการขอเชิญร่วมเวทีพบปะประชาชนดังกล่าวต่อไป