"รองนายกฯภูมิธรรม" ลงพื้นที่แพร่ติดตามซ่อมแซม ฟื้นฟูสะพานข้ามลำห้วยแม่ลาน

วันที่ 10 ก.พ.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการซ่อมแซม ฟื้นฟู สะพานข้ามลำห้วยแม่ลาน ชุมชนบ้านใหม่ - ตลาด เชื่อมชุมชนบ้านบนนา หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ โดยมี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส. จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย เขต 3 นายแพทย์ ทศพร  เสรีรักษ์ ส.ส. แพร่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส เขต 2 พรรคเพื่อไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อหาทางร่วมกันแก้ไขปัญหา

สำหรับสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ข้ามลำห้วยแม่ลาน หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่แห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และได้ถ่ายโอนให้เทศบาลตำบลบ้านปินเรียบร้อยแล้ว ต่อมาได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อเดือนกันยายน 2566 ทำให้โครงสร้างตอม่อตับกลางมีการทรุดตัวและโน้มเอียง ไม่อาจรองรับน้ำหนักรถบรรทุกได้ ทำให้ ประชาชน จำนวน 831 ครัวเรือน 2,165 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่สามารใช้เส้นทางนี้สัญจรไปมาได้ รวมถึงส่งผลกระทบต่อการลำเลียงพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่มากกว่า 1,220 ไร่ ในเบื้องต้นเทศบาลตำบลบ้านปิน ได้ยืมสะพานแบรี่ จากกรมทางหลวงมาใช้ เป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน 

โดยที่ทำการปกครองอำเภอลอง จังหวัดแพร่ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างสะพาน จำนวน 4,560,000 บาท มาดำเนินการก่อสร้าง และเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว สามารถดำเนินการได้ทันที โดยใช้แบบจาก เทศบาลตำบลบ้านปิน ซึ่งเป็นแบบสะพานมาจากแบบมาตรฐานงานสะพานสำหรับ อปท. ของกรมทางหลวงชนบท

นายภูมิธรรม ได้ประสานยังปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ดำเนินการก่อสร้างสะพานให้กับประชาชนที่ได้รับควงามเดือดร้อน โดยให้ทางเทศบาลตำบลบ้านปิน อำเภอลอง ทำหนังสือขอรับการสนับสนุนจากอธิบดีกรมทางหลวงชนบท และให้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส. แพร่ เขต 3 พรรคเพื่อไทย ไปติดตามเรื่อง หลังจากกรมทางหลวงชนบทดำเนินการก่อสร้างเสร็จ ก็สามารถถ่ายโอนให้กับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อใช้ประโยชน์ 

ขณะที่ นายวรวัจน์  ได้ยื่นหนังสือ ของ กลุ่มสภาเกษตรจังหวัดแพร่และกลุ่มเกษตรกรบ้านปง ขอรับการสนับสนุนโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห่วยแม่สางตอนบน (ห้วยเด่นกวาง) ถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหา และ หาทางช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับประโยชน์ สูงสุด