ผูกแขนรับขวัญ "สุรศักดิ์" หนุ่มบ้านดุงแรงงานถูกปล่อยตัวสู่บ้านเกิด

ชาวบ้านผูกฝ้ายสีขาวรับขวัญนายสุรศักดิ์ หนุ่มแรงงานไทยที่ถูกปล่อยตัวออกมา เรียกขวัญกลับบ้านอย่างอบอุ่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ จากกรมการจัดหางานแจ้งสิทธิ์และมีแพทย์จากรพ.และกรมสุขภาพจิตมาเยี่ยมเช็คร่างกายและจิตใจ เจ้าตัวเปิดใจขอพักสักระยะค่อยหาทางทำงานอยู่กับพ่อและแม่ใกล้บ้าน

วันที่ 10 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากแรงงานไทยถูกกลุ่มฮามาสปล่อยตัวออกมา เป็นชาวจ.อุดรธานี 2 คนคือ นายวัชระ ศรีอ้วน อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวอำเภอกุมภวาปี กับนายสุระศักดิ์ ลำเนา อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวอ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ได้เดินทางกลับถึงบ้านเกิดตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (9 ก.พ.68)

วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 2 บ้านผึ้ง ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายสุระศักดิ์ ลำเนา อายุ 32 ปี โดยที่บ้านบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมี อสม.คุณหมอจาก รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง เจ้าหน้าที่เยียวยาจิตใจจากกรมสุขภาพที่ 8 มาตรวจสุขภาพและให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังเจ้าหน้าที่จากจัดหางานจังหวัดมาแจ้งสิทธิให้กับนายสุระศักดิ์ที่จะได้รับ 15,000 บาท เป็นเงินเยียวยาที่ทางกรมการจัดหางานเยียวยากับแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศและกลับมาประเทศไทย

จากนั้นชาวบ้านได้ร่วมผูกฝ้ายสีขาวเพื่อเป็นการรับขวัญนายสุรศักดิ์ที่เดินทางมามาอยู่บ้าน เป็นประเพณีอีสานที่หากมีใครในหมู่บ้านไปทำงานแล้วกลับมาบ้านจะมีการผูกแขนรับขวัญ เพื่อให้ขวัญมาอยู่เหย้าอยู่เรือน นายสุรศักดิ์ กล่าวสั้นๆ ว่าดีใจที่ได้กลับมาบ้าน นานกว่า 1 ปี ส่วนเรื่องที่ถูกจับไว้เป็นตัวประกัน ผมขอไม่พูดถึง จากนี้ไปผมก็คงอยู่กับพ่อกับแม่ คงไม่กลับไปอีกแล้ว และจะหางานทำแถวบ้านหรืออาจจะทำงานเกษตรก็ได้

ส่วนนางคำมี ลำเนา ผู้เป็นแม่ บอกว่า คนเป็นแม่เห็นลูกชายกลับมาก็ดีใจหาที่สุดไม่ได้ แต่ก่อนลูกเป็นคนหายสาบสูญจนทางการแจ้งมาทีหลังให้ทราบว่า ลูกชายถูกจับเป็นตัวประกัน รอมากว่า 15 เดือน ได้เห็นหน้าลูกแล้ว ช่วงนี้ก็จะให้ลูกชายพักผ่อนอยู่บ้าน อีก 2-3 วันก็จะทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ และไปแก้บนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บนบานเอาไว้ว่าให้ลูกชายปลอดภัยและกลับถึงบ้าน ประมาณ 10 ที่จากนั้นก็จะให้ลูกชายบวชที่จ.บุรีรัมย์ต่อไป