ระวัง! "มนต์รักออนไลน์" ในช่วงวันวาเลนไทน์ รวม 8 ข้อยอดฮิตจากมิจฉาชีพ เผยตัวเลขอาชญากรรมออนไลน์ ลดฮวบปี 67 ลดลง 21.74% คาดปีนี้ต้องลดให้ได้อย่างน้อย 70%

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.68 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเดือนแห่งความรักและช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ รัฐบาลห่วงใยประชาชนถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้รัก และหลอกลวงให้สูญเสียเงิน ผ่านสื่อออนไลน์ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมทั้งจากข้อความผ่านSMS  เป็นต้น  โดยขอให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าหลงกล ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า หากมีการเชิญชวนให้โหลดแอปพลิเคชัน เล่นเกมผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมถึงหากต้องการซื้อช่อดอกไม้จากร้านค้าออนไลน์ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ขอให้ตรวจสอบแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และร้านดอกไม้ที่น่าเชื่อถือ ก่อนจะชำระเงินหรือโอนเงินไปยังปลายทาง เพื่อป้องกันความเสียหายในการชำระเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ

นายอนุกูล กล่าวว่า ปัจจุบันการกระทำผิดบนสื่อออนไลน์ของมิจฉาชีพมีหลากหลายรูปแบบ ถึงแม้รัฐบาลได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการเฝ้าระวัง ติดตาม และป้องกันการกระทำผิดของมิจฉาชีพผ่านสื่อออนไลน์อย่างเข้มงวด รวมถึงเฝ้าระวังและติดตามกลโกงของสื่อรักผ่านออนไลน์ หรือ Romance Scam ซึ่งเป็นการหลอกให้รัก เพื่อหวังแสวงหาผลประโยชน์จากความเชื่อใจของเหยื่อ สำหรับกลอุบายของมิจฉาชีพที่เข้ามาหลอกลวงมักจะมาด้วยกลอุบาย ดังต่อไปนี้ 1. หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (Hybrid scam) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ปลอมด้วยการโอนเงินหรือลงทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล  2. หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมท (Remote access scam) ควบคุมสมาร์ตโฟนและทำการดูดเงินในบัญชี 3. หลอกให้รัก ให้ถ่ายรูปลับส่วนตัว แล้วแบล็กเมล์ (Sextortion) ขู่กรรโชกทางเพศ ด้วยการชวนทำกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ แล้วนำภาพหรือวิดีโอมาขู่เรียกค่าไถ่ หรือบีบบังคับให้กระทำการอื่นๆ 4. มิจฉาชีพที่เป็นชาวต่างชาติจะทำทีมาจีบและให้ความหวังว่าอยากจะมาแต่งงานที่เมืองไทย และส่งทรัพย์สินให้ แต่ต้องชำระเงินค่าภาษีก่อน และขอให้ท่านช่วยชำระภาษีให้ก่อน  5. มิจฉาชีพแสดงตัวว่าได้รับมรดกเป็นเงินมหาศาล แต่ต้องชำระภาษีมรดก ขอให้ท่านช่วยชำระภาษี 6. ป่วยหนัก แต่ประกันยังเบิกจ่ายไม่ได้ 7. ส่งของรางวัลราคาแพงมาให้ แต่ติดอยู่ที่ด่านตรวจ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน ขอให้ท่านโอนเงินเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมรางวัลก่อน และ 8. เป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติที่จะมาลงทุน แต่ต้องการให้ร่วมทุนด้วย

“รัฐบาลย้ำเตือนให้ประชาชนตระหนักรู้เท่าทัน ภัยออนไลน์จากมิจฉาชีพ อย่าหลงเชื่อ หากท่านใดได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งค์มิจฉาชีพ หรือถูกหลอกลวงออนไลน์ต่าง ๆ หรือพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ทางสายด่วนโทร 1212 ตลอด 24 ชั่วโมง หากโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441 และสามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)” นายอนุกูล ระบุ

ด้าน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  จากรายงานสรุปสถิติการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ โดยศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) พบว่า ปี 2567 (ม.ค.-ธ.ค.) มีเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ ทั้งหมด 35,358 เรื่อง ลดลง 21.74% จากปี 2566 ที่พบทั้งหมด 45,190 เรื่อง

สำหรับ กลโกงที่เหล่ามิจฉาชีพ  5 อันดับแรก ที่ถูกร้องเรียนเข้ามามากที่สุด คือ 1.ปัญหาการซื้อขายออนไลน์ (ได้ของไม่ตรงปก ไม่ได้รับสินค้า สินค้าปลอม) มากถึง 15,050 เรื่อง คิดเป็น 42.56% 2.ปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย (เว็บพนัน เว็บดูดเงิน แอบอ้าง/ปลอมแปลงตัวตน หลอกขายสินค้า) จำนวน 11,371 เรื่อง คิดเป็น 32.16% 3.ปัญหาอื่นๆ หรือสอบถามข้อสงสัย (ข้อมูลทั่วไป การถูกข่มขู่หรือคุกคาม) จำนวน 3,039 เรื่อง คิดเป็น 8.59% 4.ปัญหาหลอกลงทุน และทำงานออนไลน์ (ลงทุนเพื่อทำงานออนไลน์ หลอกให้กู้เงิน แต่ไม่ได้เงิน หลอกลงทุนคริปโทฯ) จำนวน 1,564 เรื่อง คิดเป็น 4.42% 5.ปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ (ความผิดทางคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชันดูดเงิน โปรแกรมไม่พึงประสงค์) จำนวน 1,311 เรื่อง คิดเป็น 3.71%

นางสาวศศิกานต์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มุ่งส่งเสริมให้คนไทยทำธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัยภายใต้กฎหมาย DPS (Digital Platform Services) ที่ไม่เพียงกำหนดให้ธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาแจ้งข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนก่อนให้บริการเท่านั้น แต่ยังต้องมีมาตรการในการดูแลเยียวยาผู้ใช้บริการที่สอดคล้องตามกฎหมายอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังยกระดับมาตรฐานบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทุกคนวางใจได้ ด้วยการใช้เครื่องหมายรับแจ้ง “ETDA DPS NOTIFIED” ที่จะเป็นช่องทางในการตรวจสอบแหล่งที่ตั้งของผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม เพื่อให้มั่นใจได้ว่า บริการแพลตฟอร์มที่เลือกใช้มีตัวตนจริง ติดต่อได้ พร้อมเสริมบทบาทให้ศูนย์ 1212ETDA เป็นศูนย์กลางรับเรื่องร้องเรียนที่เกิดจากการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการจัดการปัญหาให้เร็วที่สุด โดยเป้าหมายของรัฐบาลต้องลดอาชญากรรม ประเภทนี้ทุกรูปแบบ โดยปีนี้ได้ออกพระราชกำหนดและมาตรการขั้นเด็ดขาดต่าง ๆ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถลดอาชญากรรมประเภทนี้ได้ไม่น้อยกว่า 70%

“รัฐบาลดำเนินการเชิงรุกเพื่อปราบกลโกงจากมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผนึกกำลังทุกภาคส่วน สนับสนุนการนำกฎหมายดิจิทัลมาปรับใช้ เพื่อให้แพลตฟอร์มมีมาตรการป้องกันและเยียวยา  ทั้งนี้ ผู้ถูกหลอกลวงทางออนไลน์ สามารถร้องเรียนและขอรับคำปรึกษา ได้ที่สายด่วน 1212 หรือ Line : @1212ETDA ตลอด  24 ชั่วโมง หรือที่ เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand” นางสาวศศิกานต์ ย้ำ