5แรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน ระหว่างเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส นานกว่า 1 ปี สุดกลั้น! หลั่งน้ำตา-โผกอด “ครอบครัว”อย่างอบอุ่น หลังเดินทางกลับถึงมาตุภูมิ ด้าน “มาริษ” ยันรบ.เร่งเดินหน้าช่วยอีก 1 แรงงานไทยที่หลังถูกจับตัวอย่างเต็มที่ พร้อม นำร่าง 2 คนไทยเสียชีวิตกลับบ้านเกิดให้เร็วที่สุด “ปลัดแรงงาน” ระบุ แรงงานไทย จะได้รับเงินก้อนแรก คนละ 6 แสน พร้อมเบี้ยรายเดือน 3 หมื่น จนอายุครบ 80 ปี 


ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 9 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมด้วยนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได่นำสมาชิกครอบครัวของ 5 แรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส นานกว่า 1 ปี มารอต้อนรับการเดินทางกลับสู่มาตุภูมิอย่างอบอุ่น ในเวลา 07.35 น. โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK 374 ประกอบด้วย นายวัชระ ศรีอ้วน อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาว จ.อุดรธานี นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา อายุ 35 ปี ภูมิลำเนาเป็น ชาว จ.บุรีรัมย์ นายเสถียร สุวรรณคำ อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาว จ.หนองบัวลำภู นายสุระศักดิ์ ลำเนา อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจ.อุดรธานี และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว ภูมิลำเนาเป็นชาว จ.น่าน อย่างไรก็ตามยังมีแรงงานไทย อีก 1 คน ที่ยังถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งทางการไทย พยายามเจรจาขอให้ปล่อยตัวและเร่งช่วยเหลือทุกวิถีทางให้ได้รับการปล่อยตัว ขณะเดียวกันก็จะนำร่างของคนไทยอีก 2 คน ที่เสียชีวิตกลับมาสู่มาตุภูมิโดยเร็วที่สุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ 5 แรงงานไทยเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ได้เดินออกมายังอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ พร้อมกับสวมกอดญาติๆ ด้วยความดีใจ บางคนถึงกับร้องไห้ออกมา


จากนั้น นายมาริษ แถลงข่าวระบุว่า ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แรงงานไทยได้รับการปล่อยตัว โดยไม่เคยคิดว่าจะหมดหวัง เพราะน้ำตาของความปลื้มปิติของครอบครัวทุกท่านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และถือเป็นกำลังใจของข้าราชการทุกหน่วยงาน ดังนั้นขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทหาร 


“ขอยืนยันว่ารัฐบาล รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่จะดูแลพี่น้องชาวไทยทุกท่าน เพื่อให้พี่น้องคนไทยที่เดินทางไปใช้ชีวิตและประกอบอาชีพอยู่ในต่างประเทศ ทำงานเพื่อครอบครัว และทำงานเพื่อประเทศชาติ มีชีวิตที่ดี เพราะตนไม่เคยที่จะไม่คิดถึงความอยู่ดีกินดีของทุกท่าน รวมทั้งจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้พี่น้องชาวไทยทุกคนที่อยู่ในต่างประเทศได้ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศอย่างมีความสุข สามารถติดต่อกับครอบครัวได้ ซึ่งนี่ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ตนและข้าราชการทุกหน่วยงานยังคงทำงานกันต่อไป แม้จะมีความยากลำบากหรืออุปสรรคแต่ก็ไม่เคยย่อท้อและยังคงผลักดันต่อไป”


 ด้าน นายบุญสงค์ กล่าวถึงเรื่องสิทธิ์ทั้งหลายที่คนไทยทั้ง 5 คน จะได้รับว่า จะดำเนินการตามสิทธิที่จำเป็นต้องได้ ในส่วนของประเทศอิสราเอล เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูต ที่จะต้องคุยกับรัฐบาลอิสราเอล


“เบื้องต้นทางการไทยจะมอบเงินก้อนแรกให้ 600,000 บาท จากนั้นจะมอบให้ 30,000 บาทต่อคนต่อเดือน จนถึงอายุ 80 ปี โดยตัวประกันทั้งหมดยืนยันว่าจะไม่เดินทางกลับไปอิสราเอลแล้ว แต่หากเดินทางกลับไปจะขอตัดสิทธิประโยชน์ทั้งหมด”