5 ตัวประกันแรงงานกลับสู่อ้อมกอดครอบครัวอย่างอบอุ่น ‘ปลัดสงค์’ นำทีมต้อนรับ จัดรถรับส่งถึงภูมิลำเนา หางานให้ทำตามความต้องการ พร้อมเร่งหาทางช่วยตัวประกันอีก 1 คนที่เหลือ

          วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ร่วมคณะ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับตัวประกันแรงงานไทย 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากอิสราเอลเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้วในวันนี้ เวลา 07.35 น. ด้วยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK 374 โดยมีพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และครอบครัวของแรงงานมารอต้อนรับกลับบ้านด้วยความอบอุ่น ท่ามกลางสื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามทำข่าวเป็นจำนวนมาก ณ บริเวณประตู 10 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

          นางหนูกัน สุวรรณคำ อายุ 61 ปี มารดา ของ นายเสถียร สุวรรณคำ เล่าว่า ตนก็รู้สึกดีใจที่ลูกได้กลับมา ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้ข่าวอะไรเลย ลูกชายไปทำงานที่นั้นประมาณ 4-5 ปี ตอนแรกใกล้จะได้กลับแล้วแต่ถูกจับไปก่อน ถ้าเจอลูกอย่างแรกที่เห็นหน้าลูกจนจะเข้าไปกอด พอไปถึงบ้านก็จะทำพิธีสู่ขวัญผูกแขนให้ลูก หลังจากนั้น 1-2 อาทิตย์ ก็จะให้เขาบวช เพราะบนไว้

          นายสมบูรณ์ แซ่ท้าว อายุ 55 ปี ชาวเผ่าม้ง บิดาของ นายบรรณวัชร แซ่ท้าว เล่าว่า ลูกชายไปทำงานที่นั้นประมาณ 9 เดือน ตอนรู้ข่าวว่าลูกถูกจับตัวไป ตั้งแต่โดนจับไปก็ติดต่อไม่ได้เลย ตนก็รอทุกวัน วันนี้ดีใจที่สุดแล้ว สิ่งที่ตนบนไว้คุ้มค่ามากที่ช่วยลูกได้ สิ่งแรกที่กลับไปจะทำพิธีสู่ขวัญ แล้วก็จะพาลูกไปแก้บนทุกอย่างที่ตนบนไว้

          นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้ผมพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ได้รับมอบหมายจากท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้มาต้อนรับตัวประกันแรงงานไทย 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากอิสราเอลเดินทางกลับถึงประเทศไทย ได้แก่ นายวัชระ ศรีอ้วน จ.อุดรธานี / นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา จ.บุรีรัมย์ / นายเสถียร สุวรรณคำ จ.หนองบัวลำภู / นายสุระศักดิ์ ลำเนา จ.อุดรธานี / และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว จ.น่าน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ทุกคนต่างดีใจโดยเฉพาะพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และครอบครัวของแรงงานมารอต้อนรับกลับบ้าน

          นายบุญสงค์ กล่าวต่อว่า สิทธิประโยชน์ที่แรงงานทั้ง 5 คน จะได้รับ ดังนี้ 1) เงินสงเคราะห์กรณีเดินทางกลับประเทศจากภัยสงคราม จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จำนวน 15,000 บาท // 2) เงินบำเหน็จชราภาพจากสิทธิประโยชน์ของประกันสังคม ซึ่งแต่ละคนเคยเป็นผู้ประกันตนมาก่อน มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ ดังนี้ นายวัชระ ศรีอ้วน จ.อุดรธานี 1,431.36 บาท / นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา จ.บุรีรัมย์ 10,982.02 บาท / นายเสถียร สุวรรณคำ จ.หนองบัวลำภู 53,058.65 บาท / นายสุระศักดิ์ ลำเนา จ.อุดรธานี 12,637.61 บาท / และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว จ.น่าน 7,829.28 บาท // 3) เงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล ประกอบด้วย บัตรเงินสด จำนวน 10,000 เชคเกล โอนเงินเข้าบัญชี 50,000 เชคเกล  เงินช่วยเหลือรายเดือน จนถึงอายุ 67 ปี จ่ายเงินชดเชยรายเดือน 3,300 เชคเกลต่อเดือน อายุ 67 – 80 ปี จ่ายเงินชดเชยรายปี 39,000 เชคเกล และการจ่ายเมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไป จ่ายเงิยชดเชยรายปี 49,000 เชคเกล โดยในเดือนแรกนี้แรงงานไทยทั้ง 5 คน จะได้รับเงินชดเชยประมาณคนละ 60,000 เชคเกล หรือประมาณ 600,000 บาท // และ 4) เงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง (ปิซูอิม) ซึ่งในส่วนนี้สำนักงานแรงงานจะประสานติดตามให้

          ในส่วนการดูแลแรงงานกลับภูมิลำเนานั้น กระทรวงแรงงานได้จัดเตรียมรถตู้ จำนวน 3 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งแรงงาน 3 คนพร้อมญาติ นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา จ.บุรีรัมย์ นายเสถียร สุวรรณคำ จ.หนองบัวลำภู และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว จ.น่าน กลับภูมิลำเนา

          ขณะที่อีก 2 คน คือ นายวัชระ ศรีอ้วน และ นายสุระศักดิ์ ลำเนา ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่ จ.อุดรธานี โดยเครื่องบินสายการบินเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ204 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 12.45 น.ถึงสนามบินอุดรธานี เวลา 14.05 น.

          ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานจะเดินทางไปเยี่ยมบ้านเพื่อสอบถามความต้องการกับแรงงานในการจัดหาตำแหน่งงานตามความประสงค์รวมทั้งความต้องการในการฝึกอาชีพ และติดตามสิทธิประโยชน์ให้ได้รับครบถ้วนต่อไป

           “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาล กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต่างใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งหาทางช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และทุกคนมีความเป็นห่วง จนนำมาสู่วันนี้ที่แรงงานไทยได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอยภัย กระทรวงแรงงานเชื่อมั่นว่า แรงงานไทยที่เหลืออีก 1 ราย จะได้รับการช่วยเหลือกลับมาในเร็ววันต่อไป” นายบุญสงค์ กล่าว

          ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาพบว่า มีแรงงานไทยเสียชีวิต 46 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 28 ราย ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว 1 ราย โดยทางการอิสราเอลยืนยันพบหลักฐานตัวประกัน 2 รายเสียชีวิตและร่างยังไม่ได้รับการส่งกลับ