วันที่ 9 กุมภาพันธ์  2568 ที่บ้านราชวิถี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา  ให้สัมภาษณ์ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 70ปี ว่า วันเกิดปีนี้70 ปีที่ 69 เป็นคุณตา ปีนี้ 70 ก็คงเป็นคุณปู่เพราะอาวุโสมากแล้ว และคิดว่าคงได้มีโอกาสทำงานทางการเมือง ซึ่งตนเองมีประสบการณ์ทางการเมืองมา 38 ปี ซึ่งตนเองคิดว่าวันนี้บ้านเมืองมีปัญหาเยอะเรื่องเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก จึงอยากที่จะใช้ประสบการณ์ที่อยู่กับการเมืองมานาน ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ในการแก้ไขปัญหาประเทศให้เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจ ระบบการเมือง และพี่น้องประชาชน ทั้งนี้อยากให้เศรษฐกิจดี พี่น้องประชาชนคนไทยมีความสุข

เมื่อถามว่า บทบาททางการเมืองจะเป็นที่ปรึกษาหรือลงมาเล่นเอง นายสุวัจน์ ระบุว่า ตนเองก็เป็นมาเยอะแล้ว จริงๆคิดว่าอยู่ในสถานภาพอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่ง แต่ขอให้ได้ใช้ประสบการณ์เพื่อช่วยเหลือประเทศไทย ในตำแหน่งอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปเป็นนั่นเป็นนี่ ในฐานะที่ผ่านเรื่องการทำงานการเมืองและเรื่องเศรษฐกิจมาเยอะตนก็ยินดีที่จะให้คนแนะนำ และคำปรึกษาต่างๆ ซึ่เป็นเวลาที่ต้องรวมพลังระหว่างประสบการณ์ กับความทันสมัยของนักการเมืองรุ่นใหม่ ทั้งนี้หากรวมพลังกันได้ ก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้ประเทศฝ่าฟันวิกฤตไปได้

ทั้งนี้ถ้าพูดถึงจุดแข็งของรัฐบาล มองว่าจุดแข็งของรัฐบาลชุดนี้คือเสถียรภาพ เพราะ 322 เสียงกับ 171 เสียง มากกว่าฝ่ายค้านเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งถือว่ามีผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นจำนวนคะแนนที่ค่อนข้างปลอดภัย รวมถึงการออกกฏหมายต่างๆก็ไม่น่ามีปัญหา ซึ่งเสถียรภาพของรัฐบาลในสภาแน่นปึก ไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องคอยดูแลเสถียรภาพนอกสภา ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆต้องแก้ไขเรียบร้อย ดังนั้นจึงย้ำว่าจุดแข็งของรัฐบาลคือเสถียรภาพ

ส่วนจุดที่ยังไม่แข็งและเป็นสิ่งที่พวกเราต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา คือเรื่องเศรษฐกิจที่จะต้องเร่งเครื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการทำงานและเศรษฐกิจต่างๆ ถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ตั้งรับในภาวะเศรษฐกิจ และเห็นว่ารัฐบาลได้ทำงาน รวมถึงนายกรัฐมนตรี เป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย มีประสบการณ์ทางการเมือง จึงมองว่า นายกรัฐมนตรีจะสามารถนำพาแก้ไขปัญหาได้อย่างลุล่วง ซึ่งตนก็ขอเป็นกำลังใจในฐานะนักการเมือง และพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนภารกิจของนายกรัฐมนตรี

ส่วนเป็นห่วงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ไม่ทราบว่าจะมีการยื่นอภิปรายเรื่องอะไร แต่ก็มั่นใจว่าเสถียรภาพและการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังเรียบร้อยดีอยู่ และรัฐบาลก็ต้องทำการบ้านชี้แจงให้กับพี่น้องประชาชนเข้าใจ 

ส่วนการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาตบจูบกันนั้น นายสุวัจน์ มองว่า การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็หลายพรรค ซึ่งถือว่าเป็นลิ้นกับฟัน และเท่าที่ตนได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ก็ไม่มีอะไรที่เป็นความรุนแรง และไม่เข้าใจกัน ซึ่งมีแค่เพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สามารถเคลียร์กันได้ และมองว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่จะไปกระทบกับเสถียรภาพและการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อถามถึงจุดยืนทางการเมืองพรรคชาติพัฒนาจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสุวัจน์ ระบุว่า จุดยืนทางการเมืองของพรรคชาติพัฒนา ว่า ปีนี้70ปี แลัว แล้วอายุก็มากแล้วก็ถือว่า countdown ทางการเมือง เพราะเวลาทางการเมืองเหลือน้อย หากมีอะไรที่จะตัดสินใจทางการเมือง ก็จะต้องคิดให้รอบคอบ และต้องตัดสินใจในแนวทางที่มั่นใจว่า แนวทางนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุด มีพลังที่จะทำงานให้กับประเทศและประชาชนได้ 

เมื่อถามว่า หากพูดแบบนี้เป็นการไม่ปิดทางไปรวมกับพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวย้ำว่า ก็ถือว่าอธิบายแบบนี้ ว่ามีวิธีคิดคิดแบบนี้ เพราะอย่างที่ตนบอกว่าเป็นนักการเมืองมามากกว่า 30 กว่าปี ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกัน ในการใช้ประสบการณ์ ใช้พลังทางการเมืองในการแก้ไขปัญหาประเทศ และเมื่อถึงเวลาพวกเราก็คงตัดสินใจร่วมกัน ให้เป็นไปในแนวทางที่มีพลังทางการเมือง ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติได้ ส่วนจะไปอยู่ในจุดไหนรอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อน

นายสุวัจน์ ยังบอกด้วยว่า ตนไม่มีทายาททางการเมือง มีเพียงนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เท่านั้นที่ช่วยกันดูแลพรรค ยังไม่ได้อะไรขนาดนั้น