วันที่ 8 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีรัฐบาลและสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีคำสั่งให้งดการส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศเมียนมา 5 จุด หนึ่งในนั้นคือชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย นั้น พบว่าหลังจากมีมาตรการดังกล่าวมาได้ 3-4 วัน ทำให้ชาวเมียนมา จำนวนมากต่างขับรถข้ามฝั่งมาเติมน้ำมันเชื้อเพลิงใน อ.แม่สาย เนื่องจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกันหรือแม้แต่ จ.เชียงตุง ที่อยู่เหนือขึ้นไปก็ยังมีปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงให้เติมลดลงและบางสถานีเติมน้ำมันเชื้อเพลังหรือปั๊มน้ำมันไม่อนุญาตให้นำใส่ถึงกลับหรือให้เติมเพียงแค่ครึ่งถังหรือไม่เกิน 20,000-50,000 จ๊าตเท่านั้นด้วย
ล่าสุด นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ชร 0015/ว 3826 ลงวันที่ 7 ก.พ.2568 แจ้งเตือนไม่ให้มีการกรอกน้ำมันลงในภาชนะ ถังน้ำมัน กระป๋องหรือแกลลอน ในเขตสถานีบริการน้ำมัน โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลได้ดำเนินการสกัดกันขบวนการหลอกลวงหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมตามแนวชายแดนของประเทศ จึงได้มีมาตรการดังกล่าว
โดยกรณีของ จ.เชียงราย มีการงดส่งกระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิงและอินเตอร์เน็ตด้วย จำนวน 2 จุดคือสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 และบ้านเหมืองแดง อ.แม่สาย ซึ่งผลการดำเนนการพบว่ามีรถจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาเติมน้ำมันในฝั่งไทยเป็นจำนวนมากและมีการนำภาชนะมาใส่ด้วย
ทั้งนี้จังหวัดเชียงราย พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2542 มาตรา 4 เนื่องจากสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิงต้องให้บริการแก่ยานพาหนะเท่านั้น ประกอบกับรัฐบาลไทยได้ดำเนินการงดส่งออกตามแนวชายแดนดังกล่าว จึงแจ้งไปยังผู้ประกอบการให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป