จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอ ความยาวประมาณ 1 นาที 38 วินาที ลงกลุ่มหมาน่ารักอะ ซึ่งเป็นพฤติกรรมของชายวัยรุ่นคนนึ่งที่อุ้มน้องหมาก่อนที่จะโยนไปในทะเล พอน้องหมาว่ายเข้ามาฝั่งชายวัยรุ่นคนดังกล่าวก็จับน้องหมาโยนไปในทะเลอีก ซึ่งทำอย่างนี้หลายรอบหลายครั้ง โดยที่ทั้งคนถ่ายคลิปวีดีโอและชายวัยรุ่นคนโยนได้หัวเราะอย่างสนุกสนาน พร้อมมีการลงข้อความว่า อาบน้ำหมาจรเห็บเยอะพิธีชาวใต้ที่คนอีสานไม่มีวันเข้าใจ หลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวเผยแพร่ออกไปในโลกโซเซียลก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุดังกล่าวนั้นเกิดที่จังหวัดชุมพร เมื่อประมาณ 2 ปี ที่แล้ว
โดยจากคลิปวีดีโอดังกล่าว ทางเพจมูลนิธิ วอชด็อก ไทยแลนด์ ได้แชร์เรื่องราวสุดสะเทือนใจดังกล่าว ซึ่งเรื่องราวดังกล่าว กลายเป็นดราม่าทันที สังคมออนไลน์แห่วิจารณ์เดือดสนั่น และต่างเป็นห่วงเจ้าสุนัขตัวนี้ ยังปลอดภัยอยู่หรือไม่ อีกทั้ง ได้มีชาวเน็ตขุดคุ้ยเจอช่องทางโซเชียลของหนุ่มที่ตกเป็นข่าว โดยออกมาเคลื่อนไหวพร้อมอ้างว่า ที่ทำไปเพราะเห็บเยอะ ต้องจับอาบน้ำ ตามที่เป็นข่าว
ล่าสุดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.00 น.ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ นายนัด (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ชาวไทยใหญ่ (พม่า) ชายวัยรุ่นที่ปรากฏอยู่ภายในคลิปที่โยนลูกหมาลงทะเล ได้เดินทางมามอบตัว กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ โดยมีเจ้าหน้าที่ของทาง มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ และ บูม นายยุทธภูมิ แก้วเข้ม เจ้าของเพจเทยกะทะ ได้เข้าร่วมเข้าฟังการสอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จังหวัดชุมพร ท้องที่จุดเกิดเหตุมารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ได้เข้าแจ้งความในข้อหา ร่วมกันทารุณกรรมสัตว์ กับ นายนัด ซึ่งเป็นคนที่โยนลูกหมาลงทะเล และ นายอ้วน อายุ 26 ปี ชาวลาว ซึ่งเป็นคนถ่ายคลิป ตอนนี้ทราบว่ากลับไปอยู่ลาว
นายนัด ผู้ก่อเหตุ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยเสียงสั่นเครือ ว่าตนอยาก ขอโทษทุกคน ในสิ่งที่ตนได้ทำลงไป ตนทำลงไปเพราะไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน ตนทำด้วยความคึกคะนอง ตอนนั้นตนอายุเพียง 17 ปี ตนเสียใจ หลังจากเหตุการณ์นั้นตนก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้แล้ว พอตอนกลับไปดูคลิป ตนถึงกับช็อคในการกระทำของตัวเอง และรู้สึกไม่ดีเป็นกังวล
เหตุการณ์ในวันนั้น ตนจำได้ว่าเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน ปี 2566 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว วันที่เกิดเหตุตนมีการไปดื่มสังสรรค์เสร็จแล้วก็มาเดินเที่ยวเล่นต่อตรงชายหาด และมีการนั่งดื่มเบียร์ต่อ จนตนเห็นน้องหมาเดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น ตนไป 2 คนกับพี่ที่ถ่ายคลิป ด้วยความเมา และความคึกคะนอง เพราะเขาบอกให้โยนตนก็โยนเลย ไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน และขาดสติด้วย คนที่ถ่ายคลิปก็ยุยงตนด้วย เขาบอกตนให้ทำเลยทำเลย ส่วนที่ว่าน้องหมาเป็นตัวเดียวกันกับที่ตนเอามาเลี้ยงไหมคือตอนนั้นตนโยนน้องเสร็จตนก็มานั่งดื่มเบียร์ต่อ พอผ่านไปประมาณสัก 15 นาทีน้องหมาก็เดินกลับไปเข้าพวกแล้ว ไม่ได้จมน้ำตาย ตน ยังจำได้ ด้วยตอนนั้นตนก็รีบอยากกลับบ้านไปนอน เลยอุ้มมา 1 ตัวโดยไม่รู้ว่าเป็นตัวไหน ตนตั้งใจอุ้มกลับไปเพื่อนำไปเลี้ยง ซึ่งตอนนี้น้องที่ตนนำมาเลี้ยงก็ยังอยู่ มีนักข่าวไปทำข่าวที่บ้านมาแล้ว แต่พอลงโซเชียลไป มีคนมาสังเกตว่าเป็นคนละตัวกันกับ ที่ตนโยนลงน้ำ เรื่องนั้นตนก็ไม่รู้มาก่อนเพราะตนก็ลืมไปแล้ว เพราะตนก็ไม่ได้จำรายละเอียดเยอะขนาดนั้น ส่วนกับทางคนถ่ายคลิป ตนไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับเขามาสักพักใหญ่ๆแล้ว หลายเดือนแล้ว เขาเป็นอดีตรุ่นพี่ที่สนิท และเขาตั้งใจที่ทำร้ายตน ตั้งใจที่จะทำเฟซปลอมขึ้นมา ให้ตนเสียชื่อ ก่อนหน้านี้เขาก็มีการสร้างเฟซปลอมขึ้นมาด้วยโพสต์ปั่น และยั่วยุ ตนขอยืนยันตรงนี้เลยว่าเฟซพวกนั้นไม่ใช่เฟซของตน เฟซจริงๆของตนไม่ได้อัพเดทมา 3-4 ปีแล้ว
ทั้งนี้กระแสสังคมที่รับไม่ได้กับการกระทำของตนตนขอโทษกับการกระทำในครั้งนี้ ณ วันนี้ตนได้รับกรรมในสิ่งที่ตนทำแล้ว อยากขอโทษคนรักหมารักแมวทุกคน ตนจะไม่มีการทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว หลังจากที่คลิปนี้เป็นประเด็นในโซเชียล ตนก็รีบติดต่อไปทางมูลนิธิวอชด๊อกทันที ตนไม่ได้นิ่งนอนใจกับสิ่งที่ทำลงไปในอดีต กับคนที่โพสต์คลิปนั้น ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด