วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปทุมธานี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้าพบกับ ร.ต.ท.ศุภชัย แช่มช้อย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี หลังทางโรงพยาบาลปทุมธานี ได้มีการเข้าร้องทุกข์ และดำเนินการแจ้งความ เพจเฟซบุ๊กสายไหมต้องรอด และบุคคลที่ทำให้รพ.ปทุมธานีเสียหาย ในเคสของสาวท้องทิพย์ ในกรณีนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้โรงพยาบาลปทุมธานีและกระทรวงสาธารณสุขเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งยังทำให้บุคคลกรทางการแพทย์หลายรายจำเป็นต้องเสียสละเวลาดูแลผู้ป่วยมาพิสูจน์ความจริง ซึ่งได้เป็นข่าวไปเมื่อวานนนี้

โดย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ในวันนี้ตนเองเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี หลังรับทราบว่า ทาง รพ.ปทุมธานี ได้ แจ้งความรู้ทุกข์ เพจเฟสบุ๊คสายไหมต้องรอด และบุคคลที่ทำให้รพ.ปทุมธานีเสียหาย

ทั้งนี้ตนเองยังยืนยันเจตนาในสิ่งที่ทำมาไม่เคยกล่าวว่า โรงพยาบาล กล่าวว่าคุณหมอเลย เจตนาที่รับมา คือ สิ่งพูดออกมามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ข้อเท็จจริงมันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งได้อธิบายกับเจ้าของต้นเรื่องตั้งแต่วันแรก ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ก็มีการยืนยันว่าท้องจริงๆ นอกจากนี้ยังถามถึงอาการป่วยทางจิต หรือเคยได้รับการรักษาอาการป่วยทางจิตบ้างไหม ซึ่งก็บอกว่าไม่ได้ป่วย

 

 

ดังนั้นตนเองจึงคิดว่า กรณีนี้เป็นอีกกรณีหนึ่งที่มาขอความช่วยเหลือ จึงประสานไปที่ยังผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กับเค้า แต่หากดำเนินการตรวจสอบแล้วผลเป็นเช่นไร คุณก็ต้องยอมรับ และไปรักษาตัว เท่านั้นเองครับ ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์อะไรอย่างอื่นมากไปกว่านั้น ไปออกรายการเอง เราก็พยายามซักถามเค้า แต่เค้าก็ยังยืนยันคำเดิม

โดย นายเอกภพ ได้กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องของกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมงานกันหลายครั้ง มันไม่มีเหตุอันใดเลยที่จะไปทำให้หน่วยงานเสียหาย เพราะผมเองกับท่าน ธนกฤต ก็ได้มีการประสานเคสกันจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลปทุมธานีเองก็เคยเข้าไปประสานงาน หลายๆ ครั้ง เพราะฉะนั้น ไม่ได้มีเจตนา อื่น แอบแฝงแต่อย่างใดวันนี้ก็มาแสดงความ บริสุทธิ์ใจ ซึ่งก่อนเดินทางมาได้ประสานไปยังท่าน ธนกฤต เมื่อวานนี้ยังบอกท่านเลยว่า พี่ต้องมาเป็นพยานให้ผม เพราะวันแรกผมประสานไปยังพี่ไปจริงๆ และยังบอกด้วยซ้ำว่า สิ่งที่เค้าพูดมันไม่น่าเป็นไปได้ ที่ลูกหายในครรภ์

"ตอนนี้ไม่มีความหนักใจ แต่ที่หนักใจจริงๆ คือเรื่องของคุณรุ่งอรุณ มากกว่า คือ 1 เราอยากรู้ว่ามูลเหตุจูงใจคืออะไร เค้าเจตนาโกหกเราไหม ถ้าเค้าเจตนา เราก็จะต้องแจ้งความเหมือนกัน แต่หากเค้าป่วยเนี่ยเราก็อยากให้เค้าได้รับการรักษา เมื่อวานได้มีโอกาสพูดคุยกับจิตแพทย์ เค้าก็อยากให้พาคุณรุ่งอรุณมาตรวจหน่อย ว่ามีอาการผิดปกติไหม ตอนนี้ได้คุยกับคุณรุ่งอรุณมาบ้างแต่ตอนนี้ยังคุยไม่รู้เรื่อง เพราะเค้าร้องไห้ตลอดเวลา เมื่อวานเค้าเตลิดไปและคงจะช๊อคด้วยอะไรด้วย ผมอยากจะพาเค้าไปพบหมอซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด"นายเอกภพ กล่าว