กรมชลประทาน เตรียมพร้อมรับมือน้ำที่จะมาจาก จ.นครศรีธรรมราช ไหลลงสู่ จ.ตรัง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 11 เครื่อง ในพื้นที่จุดเสี่ยง ขณะที่หลายพื้นที่ภาคใต้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว วันนี้ (6 ม.ค.62) ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ (5 ม.ค. 62) พายุดีเปรสชัน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลอันดามัน ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความอากาศต่ำกำลังแรง มีแนวโน้มว่าจะอ่อนกำลังลงอีกและสลายตัวไปตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดน้อยลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง ในบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำได้ นั้น ล่าสุด บ่ายวันนี้ (6 ม.ค. 62) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระดับน้ำในคลองบางสะพาน ที่สถานี GT.20และGT.7 ได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ตั้งแต่เที่ยงวันที่ผ่านมา ส่วนที่ จ.พัทลุง จ.สงขลา และจ.สตูล สถานการณ์น้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ระดับน้ำท่าต่างๆ ต่ำกว่าตลิ่งและมีแนวโน้มลดลง สำหรับสถานการณ์ในเขตพื้นที่ จ. ชุมพร ปริมาณน้ำในคลองชุมพร ที่สถานี X.201A ระดับน้ำสูงสุดเมื่อวานนี้ (5 ม.ค.62) เวลา 16.00 น. สูงกว่าตลิ่ง 1.91 ม. และลดลงต่ำกว่าตลิ่งเมื่อเวลา 20.00 น. ปัจจุบัน(6 ม.ค.62) เวลา 15.00 น. ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งแล้ว 1.98 เมตร มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณสี่แยกปฐมพร ถนนเพชรเกษม นั้น เมื่อเวลา 16.00 น. ระดับน้ำยังคงสูงกว่าตลิ่ง 0.25 ม. มีแนวโน้มลดลง คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติในวันนี้ สำหรับในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในถนนซอยบางแห่งประมาณ 20-30 เซนติเมตร คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติภายในเที่ยง วันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.62) สำหรับถนนพัฒนาคูขวางระดับน้ำลดลงจนกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ระดับน้ำในคลองนครน้อยหน้าเมืองมีระดับต่ำกว่าตลิ่งและลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนในพื้นที่รอบนอกที่มีน้ำท่วมขังและพื้นที่ลุ่มต่ำ ยังคงเร่งสูบน้ำและผลักดันน้ำ เพื่อระบายน้ำลงสู่ลำคลองสายหลักลงสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้ ส่วนสถานการณ์น้ำที่ อำเภอปากพนัง มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย เนื่องจากยังคงได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูงไม่สามารถระบายน้ำด้วยการเปิดบานระบายได้ ทำได้เพียงเดินเครื่องระบายน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 10-15 วัน อำเภอทุ่งสงและอำเภอหัวไทรสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ด้าน จังหวัดปัตตานี สถานการณ์น้ำท่า บริเวณชุมชนบ้านบริดอ อ.เมืองปัตตานี ลุ่มน้ำปัตตานี ปัจจุบันวัดระดับน้ำได้ +2.25 ม.รทก. สูงกว่าตลิ่ง 25 เซนติเมตร มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.62) หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม ทั้งนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังในส่วนของ จังหวัดตรัง สถานการณ์น้ำในแม่น้ำตรัง ที่สถานี X.233 อ.ห้วยยอด ระดับน้ำล้นตลิ่งเมื่อเวลา 05.00 น. (6 ม.ค. 62)ที่ผ่านมา วัดระดับน้ำได้ +22.05 เมตร(รทก.) สูงกว่าตลิ่ง 5 เซนติเมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเป็น +22.72 เมตร(รทก.) สูงกว่าตลิ่ง 72 เซนติเมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดว่ามวลน้ำจะเดินทางมายัง สถานี X.56 อ.ห้วยยอด โดยใช้เวลาประมาณ 7-10 ชั่วโมง และต่อเนื่องมายังสถานี X.47 อ.เมืองตรัง จะใช้เวลาประมาณ 17-19 ชั่วโมง ทั้งนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังและการคาดการณ์ปริมาณน้ำสูงสุดที่จะเดินทางถึง สถานี X.56 เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำใน อ.เมืองตรัง โดยจะได้แจ้งให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนต่อไป อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมในพื้นที่ จ.ตรัง โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 11 เครื่อง(สำรองไว้ อีก 11 เครื่อง) เตรียมพร้อมระบายน้ำที่อาจจะท่วมขังได้ นอกจากนี้ ยังได้สำรองรถขุดไฮโดรลิค 4 คัน เครื่องผลักดันน้ำ 10 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ 20 เครื่อง รถบรรทุก 10 ล้อ 3 คัน รถแทรคเตอร์ 1 คัน รถบรรทุกน้ำ 10 ล้อ 1 คัน ซึ่งสามารถเข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงประสบอุทกภัยได้ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำ อย่างใกล้ชิดด้วย