เมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 7 ก.พ. 68 ที่อาคารพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคทสท.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจ สภ.เชียงใหม่ ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขออนุญาตจับตัวนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า หลังศาลเชียงใหม่อนุมัติหมายจับ เป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนสาวนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ที่จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่า ในฐานะเป็นผู้หญิง และในฐานะนักการเมืองก็ถือว่า นายไชยามพวาน เป็นตัวแทนประชาชน ซึ่งหลักการของพรรคทสท.เราพูดเสมอว่า เราต้องการนักการเมืองที่สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรมที่สูงกว่าประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งกรณีของนายไชยามพวานนั้นไม่ใช่ครั้งแรก และครั้งนี้ถึงขนาดที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เสนอศาลขออนุมัติหมายจับ และเป็นการกระทำที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ มันเสียหายเรื่องการที่ไปทำร้ายลูกผู้หญิง เสียหายในเรื่องชื่อเสียงของประเทศ ความที่เป็นนักการเมือง ไม่ควรที่จะมีพฤติกรรมแบบนี้ และก่อนหน้านี้ก็มีคดีลักษณะคล้ายคลึงกัน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ดังนั้นถ้านายไชยามพวาน ต้องมีสำนึกและรู้สึกว่าทำผิดต่อประชาชนที่เลือกมา ก็อยากจะเรียกร้องให้นายไชยามพวานแสดงความรับผิดชอบ ไม่ต้องรอให้กระบวนการยุติธรรมเดินเรื่องไป เพราะต้องใช้เวลาแต่หากนายไชยามพวานบริสุทธิ์ เวลาที่กระบวนการยุติธรรมก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่านายไชยามพวานไม่ได้กระทำผิด แต่อย่างไรก็ดีเมื่อเกิดเหตุการณ์ซ้ำหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงก็อยากจะเรียกร้องความรับผิดชอบจากนายไชยามพวาน ให้ลาออกโดยที่ไม่ต้องรอกระบวนการยุติธรรม โดยใช้สิทธิ์ความเป็นคนไทยคนหนึ่งในการสู้คดี ไม่ต้องไม่ใช้เอกสิทธิ์ใดๆคุ้มครอง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย เราถึงได้เรียกร้องการเมืองสุจริต การเมืองที่มีคุณธรรม เพราะมีการทุจริตคอร์รัปชันอย่างมโหฬาร มีการกระทำที่ผิดกฎหมายเราจะเห็นตัวอย่างเต็มไปหมดเช่น การปราบปรามยาบ้า บ่อนเถื่อน แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลายๆเรื่อง ทำไมยังปราบไม่ได้ เพราะการเมืองไทยเราไม่สุจริต ไม่มีจริยธรรม หากบริสุทธ์ใจก็ให้นายไชยามพวานพิสูจน์ตัวเอง เราไม่ได้ปรักปรำเขา แต่ในฐานะที่เป็นนักการเมืองจะต้องมีจริยธรรมสูงกว่าคนทั่วไปและต้องเป็นแบบอย่างที่ดี
เมื่อถามว่า ต้องถึงขั้นให้สภาโหวตและให้ตำรวจเข้ามาจับกุมหรือไม่คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนแนะนำว่าหากมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเองก็ลาออกแล้วมาสู้คดีในฐานะประชาชน ไม่ต้องใช้เอกสิทธิ์ในการคุ้มครองหรือใช้การโหวต
เมื่อถามว่า จะกระทบกับฝ่ายค้านที่กำลังจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า คงไม่ไม่มีผลอะไร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องปัจเจก เป็นเรื่องพฤติกรรมส่วนบุคคล ซึ่งพรรคฝ่ายค้านทุกพรรคก็ความเห็นเช่นเดียวกับตนว่าเราไม่สนับสนุนคนที่ไม่มีคุณธรรมจริยธรรม หรือไม่ซื่อสัตย์ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ควรที่จะต้องถูกดำเนินการทั้งสิ้น เพราะตอนนี้บ้านเมืองที่เกิดปัญหาทั้งเศรษฐกิจและสังคม เพราะเราเริ่มจากวัฒนธรรมอุบาทว์ เข้ามาก็ถอนทุนแล้วก็โกงกันทุกรูปแบบ ตั้งแต่ระดับสูงจนถึงปฏิบัติการ