วันที่ 7 ก.พ.68 ที่ บช.สอท. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.รรท.รอง ผบช.สอท. และ พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รอง ผบก.สอท.1 รรท.ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ขยายผลแก๊งโอริโอ้ FiveM เครือข่ายซื้อขายข้อมูลบุคคล รวบผู้อยู่เบื้องหลังอีกราย ค้นบ้านเจอทั้งปืนและยาเสพติด

สืบเนื่องจากกรณีมีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นสมาชิกของเกมชื่อดัง “FiveM” ได้รวมตัวกันในชื่อ “Oreo” แล้วมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับบุคคลที่มีปัญหากับสมาชิกในกลุ่มของตน รวมถึงการคุกคามในชีวิตประจำวันกับกลุ่มเหยื่อดังกล่าว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมและเป็นกระแสข่าวในปัจจุบัน

ต่อมา ตำรวจไซเบอร์สามารถเข้าจับกุมนายอติภัทร์ หรือ ปอนด์ ในข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” จากกรณีโพสต์ภาพลงสตอรี่ในโซเชียลมีเดียขณะบังคับเหยื่อเปลือยกายแล้วเอาสายน้ำฉีด และสามารถจับกุมนายวิทิต หรือ Plug Mkf หรือ ต้า โอริโอ้ อายุ 28 ปี ในข้อหา “ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน” จากกรณีแปะลิงก์เพื่อโฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายรัชพล อายุ 15 ปี แอดมินเพจเฟซบุ๊ก “Whophone” ที่ได้เปิดขายข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาที่อยู่ ค้นหาข้อมูลบัตรประชาชน เป็นต้น ซึ่งเป็นข้อมูลต้นทางที่แก๊งโอริโอ้ Five M ใช้ในการข่มขู่และตามล่าตัวเหยื่อ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อตรวจสอบเพื่อขยายผล

จากการสืบสวนกรณีจับกุมแอดมินเพจ Whophone ในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่พบข้อมูลการสนทนาเรื่องการรับเงินผลประโยชน์ผ่านแอพพลิเคชัน Telegram กับผู้ใช้บัญชีชื่อ VIzpay Soldier Boy ซึ่งมีเนื้อหาการสนทนาเกี่ยวกับการขอรหัส password เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสลิปการโอนเงินค่าจ้างในการเป็นนายหน้าหรือเป็นผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊ค whophone

โดยในส่วนการหาข้อมูลของบุคคลเพื่อมาขายนั้น เจ้าของบัญชี VIzpay Soldier Boy จะเป็นผู้จัดหามาให้กับลูกค้าที่มาขอใช้บริการ ส่วนแอดมินวัย 15 ปึ เป็นผู้ดูแลระบบและได้รับค่าจ้างในการดูแลเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ส่วนค่าจ้างในการดูแลนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่หามาได้ โดยคิดค่าการจัดการหาข้อมูลแบบแพ็กเกจรายวัน 300 บาท แบบรายสัปดาห์ 1,000 บาท และแบบรายเดือน 2,500 บาท ในส่วนค่าจ้างในการดูแลเพจ เจ้าของ Telegram ดังกล่าวจะเป็นผู้โอนให้แก่กับแอดมินวัย 15 ปี หลังได้รับเงินจากลูกค้าแล้ว ซึ่งข้อมูลพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นั้น สอดคล้องเป็นไปตามคำให้การของแอดมินวัย 15 ปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบตัวเจ้าของบัญชี Telegram ดังกล่าว ทราบชื่อ นายวิชัย อายุ 31 ปี ชาวนครราชสีมา โดยทราบว่าพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่ดังกล่าว

กระทั่งวันที่ 4 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สอท.2 ร่วมกับ บก.ตอท. ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.75/2568 ลงวันที่ 4 ก.พ 2568 เข้าทำการตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. พบ นายวิชัย อายุ 31 ปี เจ้าของบัญชี Telegram  VIzpay Soldier Boy ผลการตรวจค้น สามารถตรวจยึดคอมพิวเตอร์ (โน๊ตบุ๊ค) จำนวน 2 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่องของนายวิชัย  เพื่อทำการตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ1.8 กรัม และ อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืน จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลในอุปกรณ์ที่ตรวจยึดเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการว่านายวิชัยเอาข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงรหัสผ่านต่างๆ มาจากที่ใด หากพบผู้ใดร่วมสนับสนุนการกระทำผิดดังกล่าว จะนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.ไตรรงค์  กล่าวว่า ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว