เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 7 ก.พ. 68 ที่สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพฯ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีการฝากประเด็นอะไรไปหรือไม่ว่า เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่ดีอยู่แล้ว และหลายประเด็นที่จะต้องมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศพันธมิตรมาอย่างยาวนาน และเก่าแก่ที่สุดในเอเชียก็ต้องเป็นเพื่อนกัน รวมถึงสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เป็นเพื่อนบ้าน มีความสัมพันธ์ที่ดีกันก็ต้องเป็นเพื่อนกัน เราจึงต้องวางความเหมาะสมให้พอดี ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับทราบว่า การพูดคุยเป็นไปด้วยดี
เมื่อถามว่า ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในการเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายทักษิณ กล่าวว่า ไทยกับจีนร่วมมือกันอย่างดีในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขอร้องประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมา เนื่องจากมีปัญหาการสู้รบ และแน่นอนว่ารายได้ส่วนหนึ่งในการสู้รบก็มาจากกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด เพราะฉะนั้นหากเราไม่จัดการที่ต้นเหตุก็ไม่จบ ซึ่งแน่นอนว่าหากจัดการที่ต้นเหตุ อาจทำให้ชุมชนในฝั่งเมียนมาเดือดร้อน แต่ชุมชนก็ต้องคิดว่าจะไปโอบอุ้มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำไม หากไล่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ออกจากเมียนมาไป เราก็กลับไปดูแล ส่งไฟ ส่งสัญญาณโทรศัพท์ให้เหมือนเดิม ซึ่งวันนี้เราต้องห่วงคนไทยที่โดนหลอกมากกว่าคนที่โอบอุ้มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไว้
นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนในทางฝั่งประเทศกัมพูชา ก็มีข้อมูลชัดเจนขึ้นว่าใครเป็นใครต้องขอความร่วมมือให้ได้ ซึ่งเราก็รู้อยู่ว่าที่ปอยเปตตึก 25 ชั้นเป็นของใคร และคนนี้มีสัญชาติไทยด้วย เมื่อถึงเวลาจะถอนสัญชาติ
เมื่อถามว่า ขณะนี้เราได้ตัดไฟ แต่ดูเหมือนว่า เขาก็ไปใช้ไฟของ สปป.ลาว นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร น้ำมันเราก็บล็อก เราไม่ให้เอาน้ำมันเข้าไปปั่นไฟ หากมีการส่งผ่านทาง สปป.ลาว คงไม่สะดวกเท่าไหร่