วันที่ 7 ก.พ.68 ที่ บช.ปส.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รรท.รอง ผบช.ปส. แถลงข่าว “Seal Stop Safe” เปิดปฏิบัติการสกัดกั้น และ ปราบปรามยาเสพติด
พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่า บช.ปส.ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการ ผบ.ตร.โดยสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดบูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และ ป.ป.ส. โดย พล.โท กาจน์ กอรี รอง ผบ.นบ.ยส.35, พล.ท.กัณห์ สถิตยุทธการ ผอ.ศปป.2 กอ.รมน., นายศิริสุข ยืนหาญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ และจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ โดย พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 สั่งการให้ กก.2 บก.ปส.3 เฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือตอนบน หน่วย นบ.ยส.35
คดีที่ 1 ยาบ้า 15,600,000 เม็ด (กก.2 บก.ปส.3) เมื่อ 30 ม.ค.68 กก.2 บก.ปส.3 เฝ้าระวังพื้นที่แนวชายแดนพบความเคลื่อนไหวกลุ่มเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ ที่บ้านห้วยนกกก ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางและวางกำลังโดยรอบ พบรถยนต์กระบะท้ายบรรทุกกระสอบปุ๋ยสีฟ้าทรงเหลี่ยม มีน้ำหนักเกินกว่าที่จะเป็นสินค้าเกษตร ขับออกจากหมู่บ้านมุ่งหน้าไป อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ จึงได้ตั้งจุดสกัดที่ สถานีตำรวจชุมชน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง และเรียกให้หยุด แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็ว และขับพุ่งชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเพื่อตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 15,600,000 เม็ด อยู่บริเวณหลังกระบะ จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 คนพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกราย เมื่อวันที่ 25 ม.ค.68 กก.1 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีกลุ่มชนเผ่าในพื้นที่ ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก ใช้ รถยนต์กระบะเสริมข้าง จำนวน 3 คัน ออกจากพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก ใช้เส้นทางจาก อ.แม่สอด จ.ตาก มุ่งหน้า จ.กำแพงเพชร-นครสวรรค์ จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม จนพบรถยนต์ทั้ง 3 คัน มุ่งหน้าไปทาง จว.นครสวรรค์ ขับนำ/ตามห่างกันประมาณ 5-10 กิโลเมตร จึงแบ่งกำลังกันสะกดรอยติดตาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น.รถยนต์คันหนึ่งได้เลี้ยวเข้าไปจอดที่สถานบริการน้ำมันบางจาก (กม.149 นครสวรรค์ - ชัยนาท ขาเข้า) ถนนสายเอเชีย ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท จึงเข้าแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุมนายธันยาฯ คนขับ และพบยาบ้า 12,000,000 เม็ด ของกลางอำพรางโดยใช้กะหล่ำปลีปิดบังเต็มกระบะ และจับกุมนายเกษมฯ คนขับรถนำ ส่วนรถยนต์อีกคันสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ จึงได้จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 3 เมื่อ29 ม.ค.68 กก.2 บก.สกส.สืบสวนติดตามพฤติกรรมนายธวัชชัยฯ เป้าหมายลักลอบขนยาเสพติด พบรถยนต์ต้องสงสัย ขับไปยังพื้นที่เสี่ยงแนวชายแดนภาคอีสาน โดยใช้เส้นทางจาก จ.นครพนม มุ่งหน้า จ.สกลนคร ผ่าน อ.ธาตุพนม, อ.เรณูนคร, อ.นาแก จ.นครพนม เข้าพื้นที่ จว.สกลนคร จึงได้ทำการสะกดรอยติดตามจนกระทั่งเวลา 00.20 น. (ของวันที่ 30 ม.ค.68) ได้สกัดจับรถยนต์คันดังกล่าวได้ ที่ ถ.ศรีพนม ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร มีนาย ธวัชชัย เป็นคนขับ และนายวันชัยฯนั่งมาด้ย ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้า 4,000,000 เม็ด อยู่ภายในรถ จึงได้จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 30 ม.ค.68 เวลากลางคืน กก.3 บก.ปส.4 สืบสวนกลุ่มเครือข่ายนายวีระพงค์ฯ พบความเคลื่อนไหวรถยนต์บุคคลในเครือข่าย 2 คัน ออกเดินทางลงใต้จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม พบว่านายวีระพงค์ฯเป็นผู้ขับรถซุกซ่อนยาเสพติด นายอวยชัยฯทำหน้าที่ขับรถนำตรวจการตั้งด่าน กลุ่มของนายวีระพงค์ฯไหวตัวทัน ขับรถหลบหนี นำยาบ้าไปซ่อนไว้ที่พงหญ้าข้างทางพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร แล้วแยกย้ายกันหลบซ่อนรออยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง จึงได้ไล่ล่าติดตามจับกุมตัวนายอวยชัยฯคนขับรถนำ ได้ที่ร้านอาหารคุณสาหรและนายวีระพงค์ฯ คนขับรถขนยาได้ที่ริมถนน พื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงได้พาไปนำชี้จุดซุกซ่อนยาเสพติด พบยาบ้า 900,000 เม็ด จึงได้จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 5 เมื่อวัน 24 ม.ค 68 กก.4 บก.สกส.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลางไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้รถยนต์ 2 คัน จึงจัดกำลังสะกดรอยติดตาม พบว่ารถยนต์ดังกล่าวกำลังจะเข้าพื้นที่ จว.ชุมพร ตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยานพาหนะชุมพร กก.2 บก.ปส.4 ม.2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตรวจสอบรถยนต์ทั้งสองคัน รถยนต์ทะเบียน บต 6131 นราธิวาส มีนายอาพีซันฯ เป็นผู้ขับขี่ และ นายอาฟานร์ฯ นั่งข้างคนขับ ตรวจไม่พบยาเสพติด แต่รถยนต์ทะเบียน 3ฒว 6203 กรุงเทพมหานคร พยายามขับหลบหนีและตกลงข้างทาง ก่อนถึงด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ประมาณ 100 เมตร มี นายอุไบดีละห์ เป็นคนขับ นายมูฮัมมัดไฟซูล นั่งข้างคนขับ พยายามวิ่งหลบหนี จึงได้จับกุมตัว ตรวจค้นรถพบ ไอซ์ 234 กก. ซุกซ่อนอยู่ในท้ายรถกระบะ โดยปกปิดด้วยเฟอร์นิเจอร์และถังน้ำขนาดใหญ่ และขยายผลจับกุม นายนายมะดารีฯ คนส่งยาให้กับกลุ่มผู้ต้องหา ได้ที่บ้านเลขที่ 138 ซ.หัวหมาก 6 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 6 เมื่อวันที่ 26 ม.ค.68 เวลา 20.43 น. กก.3 บก.สกส.รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มบุคคลเดินทางมาเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และรับจ้างลักลอบส่งพัสดุไปรษณีย์ยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ให้แก่ลูกค้าทางพื้นที่ภาคใต้ พบรถยนต์ต้องสงสัยตามที่สายลับแจ้ง จอดอยู่ที่ลานจอดรถโรงแรมนางนอนฮิลฮัก ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้เฝ้าสะกดรอยสังเกตกาณ์ พบนายนนทภูฯเป็นคนขับ ตรวจค้นห้องพักหมายเลข 105 โรงแรมนางนอนฮิลฮัก พบยาบ้า 297,934 เม็ด ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า และแพ็คบรรจุใส่กล่องกระดาษ เตรียมส่งพัสดุ จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 7 เมื่อวันที่ 26 ม.ค.68 กก.2 บก.สกส. เฝ้าติดตามกลุ่มนายอภินันฯมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ต้นทาง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ใช้เส้นทางผ่าน อ.พาน -อ.สอง , เด่นชัย จ.แพร่ , อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ , อ.วัดโบสถ์ , อ.วังทอง จ.พิษณุโลก , อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร , อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ มุ่งหน้าพื้นที่ จว.สมุทรปราการ จึงได้จัดชุดสะกดรอยติดตาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น.รถยนต์หมายเลขทะเบียน 1ฒช 904 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัย ได้เข้าไปจอดภายในปั้ม ปตท. อินทร์บุรีกม.104 จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น มี นายรัฐพันธ์ฯ เป็นคนขับ นำรถยนต์ไปเอกซเรย์ ที่ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะ จ.นครสวรรค์ พบ ไอซ์ 200 กก.ซุกซ่อนในช่องลับใต้หลังคา และติดตามจับกุมนายอภินันฯ คนขับรถนำ ได้ที่ ปั้มน้ำมันเชลล์ กม.32 เลขที่ 51 หมู่ที่ 4 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 8 เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 กก.3 บก.ปส.3 สืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนใน พบความเคลื่อนไหวรถยนต์ของกลุ่มเครือข่าย 2 คันขับตามกันมา ลงมาจากจังหวัดเชียงราย - ลำพูน – ลำปาง – สุโขทัย จึงได้ประสานหน่วยร่วมฯตั้งจุดสกัดบริเวณศูนย์จราจรบ้านกร่าง ม.2 ต.บ้านกร่าง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย และเข้าตรวจค้น พบ ยาบ้า จำนวน 2,544,000 เม็ด วางบริเวณท้ายกระบะท้ายรถบรรทุก จับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 9 เมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 เวลา 07.55 น. กก.3 บก.ปส.2 และ บก.ขส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายวรมันต์ หรือท็อปส์ฯ และ นายดัสกร หรือมอสฯ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสานตอนบน) ไปส่งให้กับผู้ค้าในเขตพื้นที่ภาคอีสานตอนใน จึงได้จัดกำลังสะกดรอยติดตาม พบรถยนต์ทั้ง 2 คันขับขี่เป็นรูปขบวน ห่างกันประมาณ 5 กม. บนถนนมุกดาหาร - กาฬสินธุ์ (หมายเลข 12) บริเวณ ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ ตั้งด่านตรวจบริเวณแยกไฟแดงวันครู ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ แต่รถยนต์ทั้งสองคันได้ขับหลบหนี จึงได้ไล่ล่าสกัดจับรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีขาว 9กณ-2033 กทม. ได้ที่บริเวณริมถนนกุฉินารายณ์ - โพนทอง (หมายเลข 2046) ต.สมสะอาด อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พบ นายวรมันต์ฯ เป็นคนขับ ตรวจค้นพบ ยาบ้า 5 กระสอบ ประมาณ 1,994,000 เม็ด วางอยู่บริเวณห้องโดยสารด้านหลังภายในรถยนต์ดังกล่าว และสามารถสกัดจับรถยนต์ รถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่น CIAZ สีดำ ทะเบียน กน-2810 กาฬสินธุ์ มีนายดัสกรฯ เป็นคนขับทำหน้าที่นำทาง ได้ที่บริเวณสามแยกไฟแดงจราจรห้วยผึ้ง ต.ห้วยผึ้ง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และนำตัวนายดัสกร หรือ “มอส” ฆารฤทธิ์ อายุ 17 ปีเศษ (เป็นเยาวชน) ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ภ.จว.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่าทุกคดีที่กล่าวมาข้างต้น บช.ปส.ได้สั่งการให้ทำการสืบสวนขยายผลติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนี ผู้ร่วมขบวนการ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย และสืบสวนติดตามยึดทรัพย์ทุกคดี ผลการปฏิบัติห้วง 20-29 ม.ค.68 บช.ปส.จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 6 คดี ผู้ต้องหา 16 คน ยึดยาบ้า 16,835,934 เม็ด ไอซ์ 434 กิโลกรัม รถยนต์ 12 คัน ผลการปฏิบัติ 30 ม.ค.-4 ก.พ.68 บช.ปส.จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี ผู้ต้องหา 7 คน ยึดยาบ้า 20,400,000 เม็ด รถยนต์ 4 คันบช.ปส.ได้ประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ในการ SEAL STOP SAFE อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งมีการทำงานในหลายมิติ หลากหลายบทบาทหน้าที่ ทั้งการลาดตระเวน จับกุมตามแนวชายแดน การเฝ้าระวังสังเกตการณ์ สะกดรอยติดตาม ขยายผลให้ถึงกลุ่มเครือข่ายที่อยู่พื้นที่ชั้นใน รวมถึงการใช้เทคโนโลยทีทันสมัย(ด่านตรวจยานพาหนะ X-RAYS)เข้ามาช่วยในการทำงาน เพื่อหยุดยั้ง สกัดกั้น ปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญให้สิ้นซากเพื่อความผาสุขของประชาชน
พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่าปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วน ที่ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย เน้นการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ ในวันที่ 30 ม.ค. 68 นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ที่ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าส่วนราชการฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ร่วมผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ภายใต้กรอบแนวคิด Seal พื้นที่ชายแดน Stop หยุดวงจรยาเสพติด อาชญากรรมชายแดน Safe พื้นที่ปลอดภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ขานรับนโนยบายรัฐบาล สั่งการให้ ศอ.ปส.ตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส. ตร. ดำเนินการ กวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจังดังกล่าว