เมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า
แพ้แล้วอย่าพาล
กรณีกรรมการ กสทช. ท่านหนึ่ง แพ้คดีที่ถูกบริษัทเอกชนฟ้อง เป็นคดีอาญาต่อศาลอาญาทุจริต และศาลมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ขณะนี้กำลังมีการรณรงค์กันว่า การถูกคำพิพากษาจำคุกจะเกิดข้อจำกัดต่อการปฏิบัติงานคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ
ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อประชาชน และเข้าใจผิดต่อสถาบันศาล โดยผลที่แท้จริงคือ เนื้อตัวของปัญหาก็ไม่ได้แก้ กลับสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา อาจจะถูกบัณฑิตติเตียนได้ว่า แพ้แล้วพาล
กสทช. มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเฉพาะ รวมทั้งการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเพื่อประชาชนด้วย การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวย่อมเป็นหน้าที่ และการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย
การที่ศาลพิพากษาจำคุก กรรมการ กสทช. ท่านหนึ่งนั้น ควรต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่าการขับเคลื่อนกระแสมวลชนภายใต้ธง SAVE ... นอกจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว ยังสร้างปัญหาเพิ่มเติมอีกด้วย
กรณีเรื่องนี้ กสทช. ควรให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบและทบทวนกระบวนการทำงานในการแก้ต่างคดีอาญาว่าครบถ้วนสมบูรณ์ตามควรแก่กรณีที่เกิดขึ้นหรือไม่
เพราะถ้าหากเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และศาลฟังข้อเท็จจริงได้ ก็ย่อมไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย
การที่ศาลพิพากษาจำคุกก็เพราะคดีนั้นศาลรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ ตรงนี้จึงเป็นใจกลางของปัญหาที่ไม่ควรถูกบิดเบือนเบี่ยงเบนไปอย่างอื่น
ก็ขอเตือนสติกันไว้ เพื่อไม่ให้ความเสียหายลุกลามไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาบางแห่งก็ไม่พึงประพฤติตนเป็นกระต่ายตื่นตูม ออกอาการฮึดฮัด โดยที่ไม่ได้ทราบความจริงของคดีนี้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคาดว่า เป็นการแสดงท่าทีโดยไม่พิจารณาศึกษาเลยว่า สำนวนคดีความนี้ดำเนินกระบวน พิจารณากันมาอย่างไร ก็ขอให้พิจารณากันครับ