จากท้องถิ่นสู่สากล วธ.ชวนเที่ยวงาน “CPOT Fair 2025 ของดีทั่วไทย ใกล้มือคุณ” นำผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยมาให้คุณเลือกซื้อ มุ่งบุกตลาดนักท่องเที่ยวจีนและตะวันออกกลางกำลังซื้อสูง


นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน “CPOT Fair 2025 ของดีทั่วไทย ใกล้มือคุณ” โดยมีนางวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานกรรมการบริหารคนที่ 1 กลุ่มบริษัท บีเจซี บิ๊กซี นายกลศ หิรัญบูรณะ กรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอก อินสตรูเม้นท์ เซ็นเตอร์ จำกัด และผู้บริหารทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมงาน ณ บิ๊กซี (Big C) สาขาราชดำริ โดยนายประสพ กล่าววว่า ในปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ได้มุ่งเน้นสร้างการเติบโตด้านเศรษฐกิจวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง จึงได้ร่วมกันจัดงาน “CPOT Fair 2025 ของดีทั่วไทย ใกล้มือคุณ” ระหว่างวันที่ 6 – 9 กุมภาพันธ์ 2568 ภายในงานมีกิจกรรมการออกร้านจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมหลากหลายประเภทกว่า 300 รายการ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนและชาวตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีความชื่นชอบเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกและของใช้แบบไทยๆ


ด้านชุมชน ผู้ประกอบการ ที่นำสินค้ามาร่วมออกร้าน เช่น ผ้าและเสื้อผ้าลายโบราณ(ลายอย่าง) สมัยอยุธยา ที่นำมาประยุกต์ให้สามารถสวมใส่ได้หลากหลายโอกาสจากแบรนด์ภูษาผ้าลายอย่างเพชรบุรี เสื้อลายวรรณคดีไทย ที่นำมาปรับให้มีความร่วมสมัย จากแบรนด์สนอบ (SNOB)  นนทบุรี เสื้อผ้าม่อฮ่อมร่วมสมัย โดยการใช้พู่กันวาดลวดลายตามธรรมชาติจาก แบรนด์มหาภรณ์ ลำปาง ของที่ระลึกช้างไทยที่ทำมาจากกระดาษเหลือใช้มาเพิ่มมูลค่าด้วยการเดินเส้นทองลายไทยแรงบันดาลใจจากการเขียนเบญจรงค์ แบรนด์เปเปอร์อารต์ไทย สมุทรสาคร ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย แบรนด์มาบเอื้อง ชลบุรี เป็นสมุนไพรสดที่นำมาแปรรูป ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด มีทั้งแชมพู สเปรย์น้ำแร่ ครีมทาผิว ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสาธิตอาหารขนมโบราณจากร้านคำอ้อนขนมไทย พระนครศรีอยุธยา ขนมเปี๊ยะใส่ทุเรียนสด จากร้านแม่เล ปทุมธานี และตอกย้ำมรดกภูมิปัญญาไทยอันเลื่องชื่อด้วยการสาธิตนวดประคบสมุนไพรจากชุมชนโพธิ์ทอง อ่างทอง สปาเท้าสมุนไพร ชุมชนบางเมืองใหม่ สมุทรปราการ เป็นต้น 


ทางด้าน นางวิภาดา กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเวลาจัดงาน จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกซื้อสินค้าและเข้าร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่าวันละ 5,000 คน ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเปิดโอกาสให้ชุมชน ผู้ประกอบการ ได้สำรวจตลาดนักท่องเที่ยวเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดสินค้าทางวัฒนธรรมให้ตอบโจทย์ได้ตรงใจผู้ซื้อ นำไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสินค้า “Soft Power” ออกสู่ตลาดโลก มุ่งสู่เป้าหมายสร้างรายได้ 100 ล้านบาทภายในปีนี้