วันที่ 6 ก.พ.2568 ที่รัฐสภา สส. สมุทรปราการ พรรคประชาชน นำโดยน.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ นายวีรภัทร คันธะพร้อมด้วยนายนพดล สมยานนทนากุล อดีตผู้สมัครนายกอบจ.สมุทรปราการ พรรคประชาชน นำหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้งนายกอบจ.สมุทรปราการ มายื่นให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ โดยมีนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯ เป็นผู้รับหนังสือ
โดยนายนพดล กล่าวว่า การมายื่นหนังสือถึงประธานสภาฯครั้งนี้ เพราะเชื่อมั่นว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งประชาธิปไตย และการเลือกตั้งก็เป็นรากฐานของประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน โดยการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา ชาวสมุทรปราการต่างพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น เราจึงต้องทำเพื่อปกป้องทุกคะแนนเสียง และเจตนารมณ์ของประชาชน จึงมาขอความเป็นธรรมผ่านประธานสภาฯ เพื่อให้ดำเนินการติดตามว่าเกิดเหตุผิดปกติอะไรขึ้นในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตนได้ยื่นหลักฐานบางส่วนให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา และกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อไปยื่นกกต.อีกครั้ง พร้อมแจ้งความดำเนินคดี รวมถึงจะยื่นเรื่องไปยัง รมว.มหาดไทยด้วย
ด้านนายวีรภัทร กล่าวว่า การเลือกตั้งนายกอบจ.ที่ผ่านมาเราพบความผิดปกติมากมาย ซึ่งทางพรรคได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว เช่น การแจ้งความที่สภ.พระประแดง เพื่อดำเนินการกับผู้ที่มีลักษณะซื้อสิทธิ์ขายเสียง แต่สภ.พระประแดง โดยร้อยเวรให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ไม่ใช่เพื่อประสงค์ดำเนินคดี โดยอ้างว่าพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะอำนาจสอบสวนอยู่ที่ กกต. ฝ่ายเดียว ทั้งที่จริงๆแล้วพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการพร้อม ๆ กับ กกต.ได้
“ผมขอฝากไปยัง สภ. พระประแดงและหน่วยงานยุติธรรมที่เกี่ยวข้องว่า จริง ๆ แล้วก็มีระบบติดตามใบหน้าของผู้ที่กระทำผิด จึงไม่ควรมีข้ออ้างใด ๆ ว่าไม่สามารถติดตามผู้กระทำผิดได้ ขอว่าอย่าประวิงเวลาคดี เพื่อไปซักซ้อมพยาน เพราะตรงนี้เราค่อนข้างกังวล ในการติดตามดำเนินคดี และเราจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการทำงานของ กกต. เพราะที่ผ่านมาในการทำงานหลายอย่างของ กกต. ไม่เป็นไปตามหลักสากล เช่น จัดการเลือกตั้งวันเสาร์ และทุกเพจในจังหวัดสมุทรปราการหากไปเปิดดูจะพบมีแต่คำว่า 200 ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าหมายความว่าอะไร ดังนั้นจึงอยากให้กกต. ดำเนินการเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม”
นายวีรภัทร กล่าว
นายวีรภัทร กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีหลักฐาน การรายงานผลนับคะแนนของอำเภอพระประแดง ที่มีชื่อผู้สมัครส.อบจ.หมายเลข 1 และ 2 แค่ 2 คน แต่ ในใบนับคะแนนกลับมีหมายเลข 4 มาด้วย ซึ่งหมายเลข 4 เป็นผู้สมัครนายกอบจ. ขณะที่ป้ายนับคะแนนของหน่วยเดียวกัน มีเพียง 2 หมายเลข แต่ใบนับคะแนน กับใบลงคะแนนไม่ตรงกัน ส่วนใบลงคะแนนของนายกอบจ. มีการลงคะแนนที่สลับไปมาทำให้สับสน นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งของหน่วยที่มีคนของพรรคฯไปเฝ้า แต่ยังมีอีกหลายจุดที่ไม่ยอมให้เข้าไปเฝ้าหน่วย และคะแนนคู่แข่งออกมาแบบชนะขาดลอย
ขณะที่นายคัมภีร์ กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเรียนไปยังประธานสภาฯ เพื่อพิจารณาส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป และจะแจ้งไปยังกกต.เพื่อให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เสร็จสิ้น