วันที่ 6 ก.พ.68 ที่ กระทรวงกลาโหม ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พา ภรรยา นายทหาร ยศสิบเอก สังกัด กรมสรรพาวุธ ค่ายศรีหราชเดโชชัย ร.8 ขอนแก่นร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงกลาโหม จากกรณี สามีทำร้ายร่างกายแม่ของตน และชอบใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัวมาโดยตลอด 

ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้เสียหายส่งเรื่องร้องเรียนมายังเพจเป็นหนึ่ง เนื่องจาก มีความประสงค์จะร้องเรียนสามีเนื่องจาก เธอถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ทั้งๆที่ไม่ได้มีเหตุการณ์ทะเลาะ หรือไม่เข้าใจกัน แต่เป็นการใช้อารมณ์ อยู่ๆก็จะเข้ามาทำร้ายร่างกายโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งเธอเองก็อดทนให้อภัยเรื่อยมาเพราะคิดว่าอยากรักษาครอบครัว แต่เธอเองก็ถูกทำร้ายหนักขึ้น 

รวมถึงสามีของเธอได้บุกไปที่บ้านแม่ของเธอ เพื่อไปเอาลูก กลับมาเลี้ยงดูที่ค่าย ซึ่งวันนั้น สามีได้ทำร้ายร่างกายแม่ของเธอจนได้รับบาดเจ็บ แต่สาเหตุที่แม่ยายไม่อยากให้สามีเอาลูกไปอยู่ที่ค่าย เพราะเธอเองเคยเล่าให้แม่ของเธอฟังว่า ในค่ายสภาพแวดล้อมไม่ดี ในบ้านพักราชการ ก็มีแต่ยาเสพติด มีแต่ทหารที่ทำร้ายร่างกายภรรยา อยู่หลายครอบครัว ถึงไม่อยาก ให้ลูกไปอยู่ในสภาพนั้น 

จากการที่ตนได้สอบถามผู้เสียหายก็มีจุดประสงค์อยากจะฟ้องหย่าสามี ซึ่งตนเองก็อยากให้จบกันด้วยดีไม่อยากให้ฝ่ายชายมาคุกคามฝ่ายหญิงได้ ในส่วนของเรื่องของทำร้ายร่างกายก็ว่ากันไปตามกฎหมายในเรื่องของบทลงโทษด้านวินัย ตนเองขอฝากทางกระทรวงให้ดำเนินการ อย่างเด็ดขาด เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับข้าราชการมากขึ้นทุกวัน เรื่องของทหารทำร้ายคนในครอบครัว หลังจากที่ได้ประสานทางกระทรวงกลาโหมมา ตนเองได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่เรื่องน่าจะไปถึงในพื้นที่ ทำให้หัวหน้าของฝ่ายชายโทรมากดดันผู้เสียหาย ขอให้ไม่เอาเรื่อง บอกว่า สื่อหิวแสง ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ซึ่งตนเองหวังว่าควรทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามตนเองอยากฝากกระทรวงกลาโหมช่วยดูแล ค่ายทหาร ในพื้นที่ในเรื่องของยาเสพติด เรื่องของการทำร้ายกันภายในครอบครัว อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเด็ดขาด 

โดยนางจิราพร (สงวนนามสกุล) หรือ เมย์ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ภรรยาสิบเอก เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่าตนเคยมีสามีมีลูกมาแล้ว 1 คน จากนั้นนายกัน ซึ่งเป็นนายทหารยศสิบเอก เป็นเพื่อนของเพื่อนตนได้เข้ามาจีบ และยอมรับตนเองได้ทุกอย่าง ตนเองเห็นว่าเป็นคนดีจึงตัดสินใจเริ่มคบกัน ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนปี 2564 แรกๆก็ปกติ แฟนดูแลเอาใจใส่ตนเองเป็นอย่างดี ต่อมาเดือน กันยายน 2564 ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ยังไม่ได้แต่งงาน หลังจากผ่านมา 8 เดือน ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 แฟนของตนเริ่มใช้ความรุนแรง ใช้กำปั้นต่อยหน้า ทำร้ายร่างกาย ตนเองจนหน้าบวมช้ำ ซึ่งตนเองก็ให้อภัยมาโดยตลอด จากนั้นก็คบหากันเรื่อยมา 

ต่อมาตนได้ตั้งท้องกับสามี เมื่อปี 2565 ทุกครั้งที่มีปัญหาทะเลาะกัน สามีก็จะทำร้ายร่างกาย ตนเองรวมถึงลูกติดของตนด้วย คล้ายกับคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เหมือนมีอาการทางระบบประสาท รวมถึงสามียังเล่าให้ฟังว่าตัวของเขาเองถูกเลี้ยงดูมาแบบเก็บกด ตอนเด็กๆ ถูกพ่อบังคับ ตบตีมาโดยตลอด บางครั้งนั่งดูทีวีอยู่ดีๆก็ลุกขึ้นมาทำร้ายร่างกาย ตนเองเคยแนะนำให้ไปหาหมอ แต่เขาไม่ยอมรับ แต่เวลาอยู่กับคนอื่น เขาจะเป็นคนอารมณ์ดีพูดจาไพเราะน่าฟัง ที่ผ่านมาตนเองทำอะไรไม่ได้ เพราะสามีจะข่มขู่จะฆ่าตนเองและลูก รวมถึงแม่ของตนด้วย จากนั้นตนเองตัดสินใจหนีออกมาเพราะสามีทำร้ายร่างกาย และตนฝากลูกไว้ที่บ้านแม่ สามีรู้จึงบุกตามไปเอาลูกที่บ้านแม่ของตน จนเกิดการกระทบกระทั่งสามีได้ทำร้ายแม่ของตนเอง 

ล่าสุด วันที่ 31 มกราคม 2568 สามีเลิกงานไวจึงไปรับลูกที่บ้านของตนเพื่อมานอนด้วยในค่าย ถึงได้มีปากเสียงกับแม่ของตนอีกครั้ง โต้เถียงกันไปมา จนสามีเข้าไปทำร้ายร่างกายแม่ของตนต่อหน้าลูกคนเล็ก ทั้งๆที่แม่ของตนช่วยเลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่กำเนิด สามีได้ต่อยที่ศีรษะแม่ของตนจนเลือดอาบ จากนั้นได้อุ้มลูกออกไป (มีคลิปวีดีโอ) ตั้งแต่วันนั้นที่สามีไปเอาลูกคนเล็กออกมา ตนเองพยายามติดต่อไปหาสามี แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ตนเองไม่รู้จะทำยังไงจึงขอความช่วยเหลือจากทีมงาน เป็นหนึ่ง ก่อนหน้าที่จะเดินทางมา ผอ.กองที่ค่าย โทรมาบอกตนเอง ว่าไม่ต้องมา บอกว่าเดี๋ยวย้ายสามีไปโคราชคืนนี้ ให้ยกเลิกไป นักข่าวหิวแสง ไม่ช่วยอะไรหรอก ซึ่งตนเองไม่ยอม จึงตัดสินใจมาร้องในวันนี้ โดยมีพันเอกณัฐวัฒน์ พรมฝาย หน.ศรท.กห หัวหน้าศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ลงมารับใบคำร้องกับผู้เสียหาย ดังกล่าว