"ม.หอการค้าไทย" จับตาแรงกระแทก ศก.ไทยจากทรัมป์ 2.0 ความเสี่ยงเปิดฉากครึ่งปีหลัง

เมื่อวันที่ 6 ก.พ.68 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มั่นใจภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ยังสามารถเติบโตได้ดี โดยมีโอกาสขยายตัวได้ราว 3% เนื่องจากยังไม่มีผลกระทบจากปัญหาเรื่องกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ แต่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง การทำสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศไว้ก่อนเข้ารับตำแหน่ง การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก และแคนาดาเพิ่มอีก 25% นั้น หลังการเจรจาต่อรอง ก็ขยายเวลาออกไปอีก 1 เดือน ส่วนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% จากที่ประกาศไว้ 65% แม้ไม่มีการเจรจาก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อจีน เนื่องจากสินค้ามีราคาถูก

โดยการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ เป็นการดำเนินการในเชิงต่อรอง สงครามการค้าเต็มรูปแบบไม่ได้เกิดขึ้นจริงในช่วงครึ่งปีแรก เป็นเพียงมาตรการที่สหรัฐฯ นำมาใช้ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของตัวเองที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งทางการคลัง เนื่องจากขณะนี้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.9% หากราคาสินค้ากลับมาแพงขึ้น อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย

สำหรับขณะนี้นับเป็นช่วงโอกาสดีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งทางการจีนมีท่าทีตอบรับที่ดีจากการสานต่อความร่วมมือโครงการรถไฟความเร็วสูง การลงทุนในอุตสาหกรรมไอทีและยานยนต์ ตลอดจนความร่วมมือแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกันนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้นำคณะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ เพื่อเจรจาต่อรองล่วงหน้า ก่อนที่จะมีมาตรการออกมา คาดว่าจะมีโอกาสได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐฯ และไทยมีท่าทีเชิงรุก กรณีจะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเพื่อสร้างสมดุลเรื่องการค้า ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ได้พูดถึงประเทศไทยแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอเดือน เม.ย.68 เพราะไทยมีความเสี่ยง เนื่องจากเกินดุลการค้าจากสหรัฐฯในลำดับต้นๆ

#ข่าววันนี้ #หอการค้าไทย #ทรัมป์ #สงครามการค้า #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์