“มท.1” สับสวิตซ์ตัดไฟ 5 จุดชายแดนไทย-เมียนมา ยันเป็นไปตามมติ “สมช.” ไม่หวั่นเจอคู่สัญญาฟ้อง ด้าน “กต.”ยันไม่กระทบสัมพันธ์เพื่อนบ้าน ส่วน “ปชป.” แนะรัฐบาลตัดไฟ “คิงโรมัน-ปอยเปต” หยุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมชงเป็นวาระแห่งชาติ
ที่ศูนย์ปฏิบัติการระบบไฟฟ้า สำนักงานใหญ่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 5 ก.พ.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับดูแล กฟภ. เป็นประธานในการสับสวิตซ์งดจ่ายไฟ ภายหลังที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มีมติให้ กฟภ.ตัดไฟ เนื่องจากตรวจสอบข้อมูลพบส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ  โดยเฉพาะการเชื่อมโยงสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

ทั้งนี้ จุดงดจำหน่ายไฟฟ้ามีทั้งสิ้น 5 จุด ได้แก่ 1.จุดซื้อขายบริเวณบ้านเจดีย์สามองค์ ไปยังเมืองพญาตองชู รัฐมอญ 2.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง ไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน 3.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย - พม่า ไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน  4.ซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย - พม่า แห่งที่2 ไปยังอ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และ 5.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง ไปยังอ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง 

นายอนุทิน กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำการได้ทำการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังประเทศที่รับซื้อไฟฟ้าทั้ง 5 จุด ตามมติของที่ประชุม สมช. ซึ่งนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ลงนามและมีหนังสือสั่งการมายัง กฟภ.ให้ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า 
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะถูกฟ้องร้องจากคู่สัญญาและจะส่งผลกระต่อความมั่นคงแล้วจะรับมืออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เราทำตามข้อกำหนดในสัญญาข้อ 14 ที่ระบุไว้ว่าหากจ่ายไฟไปแล้วและกระทบต่อความมั่นคงประเทศและพลังงานของชาติ ก็สามารถงดจ่ายไฟได้ทันที ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญา โดย กฟภ. ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ แต่นายกฯหรือรองนายกฯเป็นผู้สั่งการ เราไม่ได้โยนกันไปโยนกันมา แต่เพราะมีขั้นตอน กฟภ.มีหน้าที่จ่ายไฟ แต่ไม่ได้ประเมินว่า ในจุดนี้มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือมีผลต่อความมั่นคงทางพลังงานหรือไม่ ซึ่งเราอาจจะประเมินเองได้และนำไปหารือต่อไป

เมื่อถามว่าที่ตัดไฟไปวันนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มีการตัดไฟรวม 20.37 เมกะวัตต์ ใช้ได้ต่อเดือน 50 ล้านบาท ต่อปี 600 ล้านบาทต่อปี

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เรื่องนี้เกี่ยวกับความมั่นคงและเรื่องของรับข้อสั่งการ จากรัฐบาล และฝ่ายนโยบาย ไม่มีเรื่องการเมือง ไม่มีในเรื่องการทำเพื่อประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และยืนยันตั้งแต่วันแรกที่เป็นประเด็นแล้ว ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีข้อสั่งการมา กฟภ. ก็ทำตามข้อสั่งการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเราก็พิสูจน์เองแล้วว่าเมื่อมีข้อสั่งการมาเมื่อคืนนี้เราก็ทำทันที”

เมื่อถามว่าการตัดไฟในครั้งนี้เสียยอดขายไฟฟ้าไปเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่ายอดขายไฟฟ้าปัจจุบันต่อปีอยู่ที่ 600,000 ล้านบาท แต่จุดที่ตัดไป 600 ล้านบาท ไม่ถึง 1% ของรายได้ ในส่วนนี้เรามองว่าเราต้องรักษาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนคนไทย แต่มีการนำไฟไปใช้แล้วที่แปรสภาพมาอีกรูปแบบหนึ่งและส่งผลเดือดร้อนให้กับประชาชน เราก็ไม่ได้คำนึงถึงดำเนินการเพราะกังวลเรื่องยอดขาย แต่ที่จริงแล้วเรารอข้อสั่งการอยู่ เมื่อมีข้อสั่งการมาเราก็ทำโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงยอดขายซึ่งยอดขายไม่มีความหมาย ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดรับมอบพลังไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า บริเวณจุดติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าแรง สูง ด้านพรมแดนบ้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายวิทยา ประดับมุข ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาสังขละบุรี และเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ กดปุ่มสวิตช์งดจ่ายกระแสไฟฟ้า เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการป้องกันปัญหาอาชญากรรม และแก็งคอลเซนเตอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจจีนเทา ที่อาศัยอยู่ในเมืองพยาตองซู รัฐมอญ ประเทศเมียนมา อย่างถาวรเป็นที่เรียบร้องแล้ว


เช่นเดียวกับ นายณัฏฐ์คเนศ จรัสรวีสิริกุล ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สาย ได้นำเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการตัดไฟ ที่สะพานไฟบริเวณหน้าด่านพรมแดนแห่งที่ 1 อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย โดย คาดว่าจะส่งผลกระทบกับทาง จ.ท่าขี้เหล็ก เนื่องจากใช้ไฟจากประเทศไทยเป็นหลัก แต่ก็มีไฟอีกส่วนหนึ่งที่มาจาก สปป.ลาว อย่างไรก็ตาม หลังจากตัดไฟแล้วคาดว่า ทางสปป.ลาว ต้องมีการแก้ไขในระบบการส่งไฟฟ้า ซึ่งอาจจะติดขัดทำให้ในตัวเมือง จ.ท่าขี้เหล็กไม่สามารถใช้งานได้อีกประมาณ 3-5 วัน


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ดำเนินการตัดไฟฟ้าในพื้นที่ด้านตรงข้าม ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 2 จุด คือ บ้านห้วยม่วง หมู่ 6 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก และจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

ขณะที่ นายคมกฤช จองบุญวัฒนา ผู้อำนวยการกองเอเชียตะวันออก 2 กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศไปแจ้งมติของ สมช.กับทาง รัฐบาลเมียนมา โดยได้แจ้งสถานทูตเมียนมาไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา สิ่งที่แจ้งไป 2 เรื่องคือ 1.การระงับการจ่ายไฟ และ 2.การระงับสัญญาณโทรคมนาคมและการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ทางเมียนมา เตรียมตัว ไม่ให้ส่งผลกระทบกับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง และเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล

ทั้งนี้ ทางเมียนมาก็แจ้งความคืบหน้าเป็นระยะ ว่าที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือ ส่งกลับคนไปยังประเทศต้นทางไปแล้วจำนวนหลายพันคน แต่ปัญหายังอยู่ เพราะพื้นที่การทำกิจกรรมการดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ชนกลุ่มน้อย ซึ่งทางเมียนมายืนยันให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้และพร้อมให้ความร่วมมือ ยกระดับการแก้ไขปัญหา เชื่อว่าการแก้ปัญหาคร้้งนี้ ในระดับรัฐบาลไม่กระทบความสัมพันธ์ ล่าสุด ประเทศกัมพูชา ได้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาแก้ไขปัญหาด้วย

ขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ กล่าวว่ารัฐบาลควรขยายมาตรการดังกล่าวไปยังพื้นที่ชายแดนทุกแห่ง รวมถึงคิงโรมัน และปอยเปต ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลควรจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยออกมาตรการตัดไฟ และตัดน้ำในพื้นที่เสี่ยงเหล่านี้ และยกระดับให้เป็นวาระแห่งชาติ หากเราจัดการอย่างเข้มงวด ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป