กกต.เตือนผู้ประสงค์สมัครเทศบาล ระวังหาเสียงเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้ได้รับเลือกตั้งแนะศึกษาวิธีหาเสียง -การคำนวนค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง  เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่28  ก.ย.67 แล้วจนถึงวันเลือกตั้ง

กกต.  วันนี้  (5 ก.ย.) สำนักงาน  กกต.ได้ชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่ายและวิธีการหาเสียง
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี แทนชุดปัจจุบันที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 27 มี.ค.68    และจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน   นับแต่วันครบวาระ    ตามมาตรา 11 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562     และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ. 2563    โดยระยะเวลาในการคำนวณค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ให้ถือปฏิบัติตามมาตรา 61 (1) ของกฎหมายเดียวกัน     ซึ่งกรณีที่เป็นการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระ   ให้คำนวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่ 180 วัน ก่อนวันที่ครบวาระจนถึงวันเลือกตั้ง   ดังนั้น ระยะเวลาการคำนวณค่าใช้จ่าย   จึงเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.67 ไปจนถึงวันเลือกตั้ง

ส่วนระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้ง    ให้ถือปฏิบัติตามมาตรา 64 (1) ของกฎหมายเดียวกัน โดยกรณีที่เป็นการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระหรือครบอายุ    ให้กระทำได้ตั้งแต่ 180 วัน    ก่อนวันครบวาระหรือครบอายุ    จนถึงเวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้ง     ดังนั้น ระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้ง     จึงเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.67 ไปจนถึงเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง

ทั้งนี้การหาเสียงเลือกตั้ง ต้องไม่กระทำการในลักษณะที่เป็นการฝ่าฝืน มาตรา 65 ของกฎหมายเดียวกันประกอบระเบียบ  กกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหาร   ท้องถิ่น พ.ศ. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564

อย่างไรก็ตาม การกำหนดกรอบเวลา 180 วัน   ก่อนวันครบวาระจนถึงวันเลือกตั้ง เพื่อประโยชน์แห่งความเที่ยงธรรม และความเป็นระเบียบเรียบร้อย   และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการใช้ตำแหน่งหน้าที่ที่ดำรงอยู่มาใช้ประโยชน์ในการหาเสียง  หรือเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพรรคพวก   ดังนั้น ผู้สมัครทุกคนต้องปฏิบัติตามกรอบเวลาและกฎหมายดังกล่าว อย่างเคร่งครัด