มาสด้าพาสื่อมวลชนออกเดินทางสัมผัสสมรรถนะ New Mazda BT-50 ที่มาพร้อมแนวคิด “Dignity into Power พลังแกร่ง สะท้อนตัวตน” นำเสนอความโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด ขนาด 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร พร้อมภาพลักษณ์แกร่ง ดุดัน หรูหรา สง่างาม ตามแบบฉบับญี่ปุ่น ภายในคงความประณีตในทุกจุดสัมผัส ครบครันด้วยระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์ที่มอบความสะดวกสบายตลอดการขับขี่ เอกลักษณ์ของรถมาสด้าทุกรุ่น
เส้นทางการทดสอบ 4 เส้นทางของสื่อมวลชน 4 กลุ่ม จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ จันทบุรี กาญจนบุรี เขาใหญ่ และ เพชรบุรี ทำให้ได้สัมผัสกับความหลากหลายของการใช้งานรถปิกอัพ Bold New Mazda BT-50 กันอย่างจุใจในช่วงเช้าวันแรกของกิจกรรม สื่อมวลชนได้รับฟังบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ New Mazda BT-50 ที่โชว์รูม มาสด้าพระนคร เกษตร-นวมินทร์ ก่อนออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อทดสอบสมรรถนะรถปิกอัพรุ่นใหม่
การทดสอบในช่วงเช้าจัดขึ้นในรูปแบบ “ฟรีรัน” ทำให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับสมรรถนะของรถกันได้อย่างเต็มเปี่ยมในรูปแบบสถานการณ์ที่หลากหลายทั้งความแรงของเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกในสองรุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร ที่มอบพละกำลังความแรง ตอบสนองดีเยี่ยมในทุกรอบความเร็ว และเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ขนาด 2.2 ลิตร ที่มาสด้าเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์ไม่เพียงแค่ให้พละกำลังความแรง แต่ยังมอบอัตราเร่งที่ดี เหมาะสำหรับการใช้งานทุกสถานการณ์ และตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้อย่างลงตัว
Bold New Mazda BT-50 ที่ได้ทดลองขับมีทั้งหมด 6 คัน ประกอบไปด้วย รุ่น FSC Hi-Racer XS เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 762,000 บาท รุ่น DBL Hi-Racer XT เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รุ่น DBL Hi-Racer XTR เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และ รุ่น DBL XTR 4x4 เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
Bold New Mazda BT-50 ได้รับการปรับปรุงพละกำลังของเครื่องยนต์ให้มีความแรงยิ่งขึ้น กับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ขนาด 2.2 ลิตร ทั้งในรุ่นฟรีสไตล์แค็บ (บานแค็บเปิดได้) แบบขับสองยกสูง หรือ FSC HI-RACER และดับเบิ้ลแค็บ แบบขับสองยกสูง หรือ DBL HI-RACER ช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ให้พละกำลังแรงสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ใหม่ล่าสุด ให้อัตราทดต่อเนื่องทุกช่วงความเร็วตอบสนองฉับไว แม่นยำ ราบเรียบ นุ่มนวล ทำให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ DBL รุ่นเครื่องยนต์ 3.0 รุ่น HI-RACER และรุ่นขับเคลื่อน 4x4 ให้พละกำลังแรงสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร สามารถขับลุยได้ทุกสถานการณ์ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบอเนกประสงค์ มาพร้อมสมรรถนะในการขับขี่แบบรถปิกอัพเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4ที่มาพร้อมเฟืองท้ายแบบ Diff-lock รวมถึงระบบการขับขี่แบบออฟโร้ด (Off-Road Mode) ในขณะที่ยังคงมอบความนุ่มสบายให้กับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารเสมือนรถยนต์นั่งตามแบบฉบับรถยนต์มาสด้า
ตลอดการเดินทาง สื่อได้โอกาสสัมผัสกับรถปิกอัพ Bold New Mazda BT-50 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องดีไซน์ใหม่รอบคันที่สะท้อนความแกร่ง ดุดัน หรูหรา ที่เสริมความโดดเด่นให้กับรถรุ่นนี้ได้อย่างลงตัว ทั้งกระจังหน้าแบบใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED Signature ล้ออัลลอยขนาด 17” สีดำ และ 18” สีเงิน และ สีดำ (Matte Black) รวมถึงสีภายนอกใหม่อีกถึง 3 สี ได้แก่ สีขาว จีโอด ไวท์ เพิร์ล สีน้ำเงิน เซลลิ่ง บลู และสีแดง เวอร์มิลเลี่ยน ลาโตซอล เรด ภายในยังคงเน้นความหรูหรา ประณีต คัดสรรเฉพาะวัสดุคุณภาพสูงตามแบบฉบับรถมาสด้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น สะท้อนความแข็งแกร่งในทุกด้าน ด้วยภายในห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ เบาะผ้าสีดำ-หนังสีส้ม Terracotta ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ไปจนถึงทุกองค์ประกอบภายในห้องโดยสารที่ตอบรับทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว นอกจากนั้นแล้ว เทคโนโลยีความสะดวกสบายของรถรุ่นนี้ ก็ยังคงครบครันตามแบบฉบับรถมาสด้า ทั้งหน้าจอ MID แบบสี ขนาด 7 นิ้ว พร้อมด้วย Vehicle Tilt information เพิ่มความสะดวกสบายด้วยช่องเสียบ USB-C หน้าจอ Center Display ขนาด 8” และ 9” ที่รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย นอกจากนั้น ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงมากมาย อาทิ 1.ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) 2.ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) 3.ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) 4.ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTB (Rear Cross Traffic Brake) 5.ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Auto High Beam) 6.ระบบช่วยเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driving Attention Assist) 7.ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ จนถึงจุดหยุดนิ่ง ACC แบบ Stop & Go (Adaptive Cruise Control with Stop & Go) 8.ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) 9.ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation) และ 10.ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็ว MSL (Manual Speed Limiter)