ผู้ว่ารุดเยี่ยม!! นักเรียนวัย 19 ขับรถตู้ดัดแปลงแทนพ่อ ส่งเพื่อนไปไม่ถึงโรงเรียน ยางแตกขับชนเสาไฟฟ้า หวิดดับหมู่ยกคัน 23 คน พบผู้บาดเจ็บสาหัส 3-4 ราย กระดูกทิ่มปอด ไหปาร้าหักแผลฉีกขาดทะลุถึงกระดูก “นักเรียนหญิงวัย 19 ขับเอง พ่ออนุญาต” รถไม่ถูกขึ้นทะเบียนรับนักเรียน ผู้ว่าอุตรดิตถ์เชื่อ! มีรถตู้ที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมดูแลของกรมขนส่งทางบกและมีการดัดแปลง สั่งให้ศึกษาธิการจังหวัดสำรวจโรงเรียนทุกแห่ง
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.เลข มลเทียน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุรถตู้นักเรียนชนเสาไฟฟ้าและตกข้างทาง บริเวณถนนทางหลวงสาย 1045 สายเขื่อนสิริกิติ์-อุตรดิตถ์ หน้าป้อมเขาแก้ว ตำบลงิ้วงาม ทางเข้าตัวเมืองอุตรดิตถ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย รุดยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยวัดหมอนไม้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยโรงพยาบาลอุตรดิตถ์
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถตู้นักเรียน สีบเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน นข-2957 อุตรดิตถ์ ตกข้างทางใกล้รั้วบ้าน พบนักเรียนชาย-หญิง ทั้งหมดจำนวน 23 คน นอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ภายในรถและนอกรถตู้ เจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหักและโรงพยาบาลพิษณุเวชอุตรดิตถ์ เพื่อให้แพทย์และพยาบาลเร่งรักษาอาการบาดเจ็บซึ่งมีตั้งแต่เล็กน้อยจนไปถึงบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ถูกนำตัวมาส่งรักษาที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ จำนวน 3 ราย
ตรวจสอบที่เกิดเหตุสภาพตัวรถโดยรอบกระจกแตกและหลุดออกนอกตัวรถ ด้านหน้าตัวรถตู้พังยับกันชนหน้ารถและป้ายทะเบียนหลุดลงมากองอยู่ที่พื้นหญ้าใกล้ท่อระบายน้ำและข้างเสาไฟฟ้าทางหลวงต้นใหญ่ โดยมีเสาไฟฟ้ารายทางความสูงประมาณ 3 เมตร จำนวน 1 ต้น ถูกชนจนได้รับความเสียหายและถูกลากยาวอยู่ใกล้กับรถตู้ ด้านหน้าตัวรถยุบเข้าไปถึงที่นั่งคนขับเล็กน้อย ประตูที่นั่งคนขับและคู่นั่งคนขับ รวมถึงประตูรถตู้โดยสารได้รับความเสียหาย ตรวจที่บริเวณล้อรยนต์ด้านหน้าขวาฝั่งคนขับพบยางรถยนต์แตก
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถตู้มีการดัดแปลงสภาพที่นั่งรถ 3 แถวขวางตามแนวรถ จำนวน 10 คน ดัดแปลงเปลี่ยนเป็นเบาะนั่งยาวตามตัวรถตู้ เพื่อให้สามารถบรรจุคนนั่งได้มากถึง 20-22 คน เจ้าหน้าที่พบกระเป๋านักเรียน รองเท้านักเรียน หนังสือตกเกลื่อนภายในรถ จึงเก็บนำมากองรวมเอาไว้ที่นอกตัวรถ จากนั้นแจ้งให้รถยกลากนำซากรถตู้นักเรียนไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.ชนกนันทินี บุญจันทรง อายุ 19 ปี ที่อยู่ 11 ม.1 ตำบลวังดิน อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ นักศึกษาอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นผู้ขับขี่รถตู้แทนบิดาและไม่มีใบขับขี่ เหตุเพราะรถตู้อีก 1 คัน จอดเสียอยู่ที่บ้าน และไม่สามารถวิ่งได้ จึงนำรถตู้คันเกิดเหตุออกมาวิ่งและขับแทนพ่อ วิ่งรับเด็กนักเรียนในหมู่บ้านพื้นที่ตำบลวังดิน เพื่อมาส่งนักเรียนในตัวเมืองอุตรดิตถ์ หลายโรงเรียน เมื่อรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุมีเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิด ส่งผลทำให้รถตู้เสียหลักวิ่งลงข้างทางชนกับเสาไฟฟ้ารายทางขนาดเล็กสูงประมาณ 3 เมตร แล้วลากเสาไฟฟ้ายาวไปเกือบ 10 เมตร รถตู้นักเรียนได้ชนกับเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ เข้าบริเวณกลางลำ
เบื้องต้นทราบว่า น.ส.ชนกนันทินี ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนขวาหัก ส่วนผู้โดยสาร พบนัก เรียนอาการสาหัส จำนวน 2 ราย เด็กหญิงอายุ 17 ปี 1 ราย กระดูกสันหลังหักและซี่โครงหักข้างขวาหัก 2 ซีก ทิ่มทะลุปอด พบลมและเลือดในเยื้อหุ้มปอดทั้ง 2 ข้าง และเด็กชายอายุ 7 ปี กระดูกไหปลาร้าข้างซ้ายหัก พบแผลฉีกขาดบริเวณที่ไหปลาร้าหักทะลุถึงกระดูก อยู่ในการดูแลของแพทย์ ทีมแพทย์โรงพยาบาลอุตรดิตถ์เร่งให้การช่วยเหลืออยู่
ขณะเดียวกัน นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ทราบข่าวรถตู้นักเรียนชนกับเสาไฟฟ้าส่งผลทำให้เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจำนวน 23 คน จึงเดินทางไปที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เข้าร่วมประชุมกับนายแพทย์อายุส ภมะราภา ผู้อํานวยการ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และคณะทีมแพทย์ พร้อมด้วย นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่จากศึกษาธิการจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)อุตรดิตถ์ รวมตัวแทนบริษัทประกันภัยจากรถยนต์ที่ทางโรงเรียนได้ทำประกันให้กับนักเรียนเอาไว้
นายศิริวัฒน์ กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 23 ราย ส่งแยกเป็น 3 โรงพยาบาล บาดเจ็บเล็กน้อยอยู่โรงพยาบาลพิษณุเวช ส่วนที่บาดเจ็บหนักถึงสาหัสส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหักและโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เบื้องต้นไม่ม่ผู้เสียชีวิต พบอาการหนักอยู่ 3-4 ราย ซึ่งอยู่ห้องไอซียู เนื่องจากบาดเจ็บหนัก และห้องเอ็มอาร์ไอเพื่อตรวจเช็คร่างกายด้วยอุโมงค์คอมพิวเตอร์ เฝ้าดูอาการและรักษาโดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่กระดูกคอเคลื่อนและบางคนกระดูกหักทิ่มเข้าที่ปอดทำให้ปอดรั่วอยู่ในการดูแลของแพทย์แล้ว เพื่อเฝ้าดูการฟื้นตัวของร่างกายรวมถึงเฝ้าดูว่าปอดจะสมานได้หรือไม่ได้อย่างไร
นายศิริวัฒน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับรถตู้นักเรียนที่มีการนำมาดัดแปลงสภาพจาก 10 ที่นั่ง เป็น 20 กว่าที่นั่ง เชื่อว่ามีอีกหลายคัน เบื้องต้นได้สั่งให้ทางศึกษาธิการจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งให้ทุกโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ สำรวจสอบถามเด็กนักเรียนว่า เดินทางมาโรงเรียนในลักษณะใด หากขึ้นรถตู้ซึ่งรถตู้นั้นจะต้องถูกขึ้นทะเบียนกับโรงเรียน แต่ลักษณะคัดที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับโรงเรียนเอาไว้ เป็นรถรับจ้างทั่วไป เป็นสัญญาณบอกเหตุว่า ต้องดูในเรื่องประเด็นนี้ด้วยโดยให้ ศึกษาธิการจังหวัดสอบถามนักเรียนแต่ละห้องในสถาบันการศึกษา ได้เดินทางมาอย่างไร เป็นรถนักเรียนไหม เพราะทางกรมการขนส่งมีกฏกระทรวงควบคุมรถนักเรียน จะได้ดูแลในเรื่องของการต่อประกันภัยและการต่ออายุหรือตรวจสภาพรถ สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า มีรถตู้ที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมดูแลของกรมขนส่งทางบก และมีการดัดแปลงคงต้องให้ทางโรงเรียนสำรวจและติดตามการรายงานต่อไป
“จากกรณีเด็กนักเรียนอายุ 19 ปี ได้รับอนุญาติจากผู้ปกครองให้มารับรถตู้ส่งนักเรียนด้วยกันนั้น เกิดจากสภาพของครอบครัว ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ประการแรกบิดาให้มาขับรถตู้ ประการที่สองกฏจราจรยังไปไม่ทั่วถึงหรือผู้คนยังไม่ให้ความสำคัญ ทั้งที่เด็กก็ไม่มีใบขับขี่ ซึ่งทางขนส่งได้มีการรณรงค์ไปทุกสถานศึกษาแล้วว่า จะขับขี่ยวนยานอะไรต้องมีใบขับขี่ หากมีใบขับขี่ก็จะรู้ว่ากฏจราจรเป็นอย่างไร ทำให้เตือนตนว่าลักษณะแบบนี้ผิดกฏหมาย จะทำให้อุบัติเหตุเกิดน้อยลง ใบขับขี่มีความหมาย ทางจังหวัดให้ความสำคัญในเรื่องของความรู้เรื่องกฏจราจร เด็กต้องมีใบขับขี่ ตามอายุที่กำหนด
ในส่วนเรื่องกำลังใจ ตั้งแต่เช้าทีมแพทย์ได้เข้ามาดูแลอย่างเต็มที่ ทุกส่วนราชการ หัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องและก็ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเอาใจใส่ เรื่องค่ารักษาพยาบาลได้มอบหมายให้ทาง คปภ.ซึ่งดูแลเรื่องประกันภัยให้องค์ความรู้ สิทธิพึงมีพึงได้ให้แก่ผู้ปกครอง เพื่อจะได้ดูแลรักษาสิทธิต่อไป ” ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์กล่าว.
รายงานข่าวแจ้งว่า รถคันดังกล่าว ตรวจสอบแล้วพบมีทำประกันเพียงแค่พรบ.ผู้ประสบภัยจากรถไว้กับบมจ.วิริยะประกันภัยเท่านั้น โดยไม่มีการซื้อประกันภาคสมัครใจ