“นายกฯอิ๊งค์” ไฟเขียวตัดไฟ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”ได้เลย “ภูมิธรรม” เข้ม! สั่ง “กฟภ.” ตัดไฟ “เมียนมา” ได้ทันที ขู่เกียร์ว่างเจอยืมตัวช่วยราชการ ด้าน “มท.1” ย้ำหยุดจ่ายไฟต้องมีคำสั่ง “สมช.” ยัน “กฟภ.” ไม่มีอำนาจสั่ง
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 เมื่อเวลา 07.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงอำนาจสั่งตัดไฟในชายแดนเมียนมา ภายหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พบเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า เรื่องไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบรุนแรง การขายไฟฟ้าให้เมียนมาเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2535-2537 ซึ่งเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ออกมา 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ ให้ขายไฟให้เมียนมา ต่อมาให้ขายไฟได้ตามแนวชายแดน โดยไม่จำเป็นต้องเข้า ครม. และให้ดำเนินการได้ตามแนวทางปฏิบัติที่แท้จริง ดังนั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีอำนาจตามระเบียบของ กฟภ. โดยเฉพาะในข้อ 51.1 และ 51.2 กฟภ.งดจ่ายไฟฟ้าได้หากพิจารณาเห็นว่าการจ่ายไฟฟ้ากระทบความมั่นคงของชาติ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับผลกระทบที่เกิดต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศขณะนี้ ตนเห็นว่ามันมีปัญหา วัดจากข้อมูลของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นปัญหากระทบต่อประชาชนขณะนี้ ข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ได้รับรายงานมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า มิ.ย.65-มิ.ย.67 คนไทยตกเป็นเหยื่อกว่า 5 แสนคน สร้างความเสียหายกว่า 6 หมื่นล้านบาท และครอบคลุมความมั่นคงในหลายมิติ รวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น หากมีข้อมูลว่าผู้ซื้อไฟฟ้าจาก กฟภ. ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแก๊งอาญชากรรมข้ามชาติ กฟภ.สามารถใช้สิทธิตามสัญญาจ่ายไฟฟ้าให้น้อยลงหรืองดจ่ายไฟฟ้าได้
นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ตนไม่สบายใจที่มีการโยนกันไปมาว่า ไม่สั่งมาก็ทำไม่ได้ อีกฝั่งก็บอกไม่รู้ ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร ทั้งที่หากมีข้อมูลสืบทราบได้ว่ามีปัญหา ซึ่งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ได้สั่งให้ สมช. ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติในการทำงานเรียก กฟภ.มาคุย รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ ตำรวจ ทหาร อยู่ในที่ประชุมด้วย ยืนยันแล้วว่ากระทบกับความมั่นคงจริง ซึ่งตนเพิ่งได้รับหนังสือที่แจ้งข้อมูลดังกล่าวมา ซึ่ง สมช.ชี้แล้วว่ากระทบ และในทางตรงกันข้ามไม่ต้องรอให้ สมช.ชี้ หากกระทบ กฟภ.จัดการได้เลย ตนได้รับรายงานมาว่ามีการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้นผิดปกติ ซึ่งเมื่อพบข้อมูลนี้ควรจะเข้าไปดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ไม่ใช่จะขายไฟฟ้าอย่างเดียว หลังจากพิจารณาข้อมูลดังกล่าวแล้วตนคิดว่าการค่อยๆ ตัดไฟอาจจะช้าเกินไป เพราะปัญหารุนแรงแล้ว
“วันนี้ตนจะสั่งการไปยัง สมช.ให้แจ้ง กฟภ. เรื่องนี้รุนแรง จะต้องไปดำเนินการให้ตัดไฟทันที ไม่ใช่มารอโยกไปมาเหมือนที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นปัญหา ให้แจ้ง กฟภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับหน่วยส่วนไหนหรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน หากไม่ปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันที ตนจะยืมตัวมาช่วยราชการ ขอให้ปฏิบัติทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ยืนยันว่าการตัดไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องเข้า ครม. หากยังยืดเยื้อไม่จัดการภายในวันนี้ จะยืมตัวมาช่วยราชการ ให้ไปพิจารณาว่าควรจะจัดการแค่ไหน และรายงานให้ทราบผล” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เป็นหน้าที่ของ กฟภ.ที่จะดำเนินการได้ทันทีหากสังคมรับรู้ รวมถึงประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน แต่หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่รับรู้อีก ก็ต้องตรวจสอบกัน ซึ่งวันนี้เดี๋ยวคำสั่งจะออกมา ตนตัดเองได้ในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ไม่ต้องรอให้ถึง ครม.หรือนายกฯ ให้ดำเนินการทันที ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ในขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศต้องทำหน้าที่ ไม่ปล่อยปละละเลยตามสิ่งที่ควรปฏิบัติ แต่ใครที่รู้สึกว่ายังรอโน่นรอนี่อยู่ ตนจะใช้มาตรการเด็ดขาด
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่าสั่งการให้ตัด ไม่ต้องมาถามว่าเป็นเพราะอะไร กฟภ.ถึงไม่ตัด หรือมั่วแต่สนใจขายไฟอย่างเดียว มีเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งเสียหายมากกว่าไฟที่ขายได้ ส่วนจะมีนอกมีในหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่ให้ไปจัดการเรื่องนี้ให้จบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุม ครม.จะต้องคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนบอกผ่านสื่อแล้ว และจะสั่งการผ่าน สมช.อีกครั้ง
เมื่อถามว่า หากยังเกียร์ว่าง นอกจากจะยืมตัวมาช่วยราชการ ยังมีมาตรการอื่นๆ อีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืมตัวมาช่วยราชการถือว่าหนักแล้ว ส่วนแนวทางอื่นจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวค่อยดูกันตามฐานความผิด
เมื่อถามว่า การตัดไฟจะตัดเฉพาะเมือง ชเว โก๊กโก และพีพีพาร์ก หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ให้ไปดูตามความเป็นจริง แต่ตนสั่งการว่าเรื่องนี้มันมีความชัดเจนแล้วและมีปัญหา ซึ่งรับทราบแล้วจะต้องดำเนินการตามมาตรการให้เห็นชัดเจนว่าพยายามทำอะไรที่จะเป็นการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่มาโยกโย้ ต้องจัดการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามอีกว่า เมืองเมียวดีซื้อไฟจากเราถึง 90% ถ้าตัดจะดับทั้งหมด นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาต้องควบคุมคนของเขา เพราะอยู่ในพื้นที่ของเขาเอง หากปล่อยให้พื้นที่เหล่านั้นสร้างปัญหาให้กับประเทศเขาก็ต้องรับผิดชอบด้วย และต้องการจัดการทันทีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้จบ หากไม่จบก็ต้องรับผล เราไม่ใช่แม่พระใจดี ส่งขายไฟให้และทำอะไรแบบนั้นแล้วเรายังนิ่งเฉยอยู่หรือ
ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.ได้สั่งการให้ นายภูมิธรรม เรียกประชุมด่วนสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ ที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า จุดยืนเรื่องการตัดไฟฟ้า ที่เป็นปัญหาโยนกันไปมาในตอนนี้ ระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับ สมช. นายกฯ กล่าวว่า ความจริงไม่มีการลังเล วันนี้ที่ตนพูดใน ครม.ก็ไม่มีความลังเลว่าถ้าสุดท้ายแล้วเราดูเรื่องชายแดนชัดเจนก็ตัดไฟได้เลย และเรื่องของน้ำมันก็ไม่ต้องส่ง เพราะถึงอย่างไรเราต้องโอบอุ้มและดูแลคนของเราก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อคนไทยและภาพลักษณ์ของประเทศมากมาย ตรงนี้ถ้าเราเห็นใจและเรียงลำดับไม่ถูกต้องจะเกิดปัญหายาวนานและต่อเนื่อง สิ่งที่ประเทศไทยเจอหนักหน่วงกับเรื่องนี้ ฉะนั้น ต้องเป็นมาตรการที่เข้มข้น และถึงเวลาแล้วที่ต้องเรียกคุยกันและจัดการเลย
เมื่อถามว่า ในสัญญาขายไฟฟ้า เราสามารถตัดไฟได้ทันทีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า "ได้ทันทีคะ" เมื่อถามว่า ต้องเอาผิดผู้ที่อยู่เบื้องหลังตรงนี้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน ไม่สามารถปล่อยไปได้ เพราะเรื่องนี้เราจริงจัง และเป็นเรื่องระดับชาติที่ทุกประเทศกังวล ถ้าเราจับได้แล้วไม่ดำเนินการเราก็จะเสียความน่าเชื่อถือ เมื่อถามย้ำว่า กังวลจะเจอตอหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ไม่กังวล"
เมื่อถามว่า นายภูมิธรรมได้สั่งการ สมช.ให้แจ้งไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อตัดไปแก๊งคอลเซ็นเตอร์ น.ส.แพทองธาร ได้หันไปทางนายภูมิธรรม ที่ระบุว่า "สั่งการแล้ว และจะรีบประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงตามบัญชานายกฯ" เมื่อถามว่า ได้ขีดเส้นหรือไม่ว่าจะตัดไฟวันไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า "ให้ลงไปวันนี้" ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ น.ส.แพทองธาร ใช้นิ้วชี้ลงไปที่โพเดียมแถลงข่าว และพูดว่า "วันนี้ได้เลยคะ ถ้าคุยแล้วมันชัดเจนแล้ว ก็วันนี้เลยคะ"
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุว่าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีอำนาจสั่งหยุดจ่ายไฟในชายแดนเมียนมาได้ในวันนี้ ภายหลังสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พบว่ามีการเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า ตนคิดว่าสื่อมวลชนรอการตัดสินใจจาก สมช. ดีที่สุด เพราะเมื่อวานนี้ (3 ก.พ. 2568) มีการประชุม สมช. เป็นที่เรียบร้อยและมีความคิดเห็นที่ตรงกันทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม โดย สมช. จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด และนำเสนอนายภูมิธรรม ในฐานะประธานสมช. และมีข้อสั่งการอย่างไรมาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่ใช่ว่าจะให้ กฟภ. ไปหยุดจ่ายไฟเองได้ คงจะไม่ใช่แน่นอน
เมื่อถามอีกว่าเมื่อมีขั้นตอนที่นายภูมิธรรม อนุมัติมาจะสามารถหยุดจ่ายไฟได้เลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ถูกต้อง จะต้องมีการสั่งการที่มีกฎหมายรองรับ
เมื่อถามอีกว่ากรณีที่ สมช.ระบุว่า หากจะหยุดจ่ายไฟต้องมีหลักฐานและลงพื้นที่ตรวจสอบก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า สมช. ได้เรียกหน่วยงานเข้ามาประชุมแล้ว และได้มีข้อสรุปออกมาแล้ว โดย หน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม ก็ได้กลับมารายงานผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วยงานแล้ว ในส่วนของกรณีกระทรวงมหาดไทยได้มี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุม และท่านก็เป็นนักกฏหมายอยู่แล้ว โดยได้ให้ความคิดเห็นในส่วนของกระทรวงมหาดไทยไปซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมรับ ย้ำว่า สมช. ได้ระบุว่าจะรวบรวมข้อมูลทุกอย่างและจะนำเสนอนายภูมิธรรมทั้งหมดนี้ต้องมีการสั่งการลงมา เราก็พร้อมที่จะปฏิบัติ
เมื่อถามอีกว่าหากจะมีการหยุดจ่ายไฟในวันนี้จะเป็นการหยุดจ่ายไฟในพื้นที่ใด นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ตามรายงาน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีรายงาน หรือคำสั่งใดเข้ามา และยังไม่มีการชี้จุดว่าแหล่งที่ทำกฏหมาย ที่ใช้ไฟจากประเทศไทย และเกิดผลกระทบที่เสียหายต่อประเทศไทยอยู่ตรงไหน ในอดีตที่ผ่านมาก็ได้มีการหยุดจ่ายไฟไปแล้ว ฉะนั้นการหยุดจ่ายไฟ แต่ประเทศไทยที่มีการพิสูจน์ทราบได้ชัดและมีการแจ้งแหล่งที่มาอย่างถูกต้องก็ดำเนินการแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่หากจะมีการหยุดจ่ายไฟเพิ่ม แต่ก็ต้องมีการแจ้งมาอย่างถูกต้อง
เมื่อถามอีกว่ากรณีที่นายภูมิธรรม ระบุว่าจะมีการหยุดจ่ายไฟในพื้นที่ภายในวันนี้นั้น ยังไม่เห็นรายละเอียดใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด ซึ่งก็ต้องมีการแจ้งมาทางกระทรวงมหาดไทย และ กฟภ.
เมื่อถามอีกว่าระยะเวลาในการที่จะมาแจ้งให้ทราบ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถามนายภูมิธรรม เพราะนายภูมิธรรมหากได้รับทราบรายงานก็คงจะต้องมีการพิจารณาและมีการสั่งการ