วันที่ 4 ก.พ. 68 เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อพิจารณาการตัดไฟบริเวณชายแดนเมียนมา แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคง (สมช.) พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขานุการรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ตัวแทนกระทรวงคมนาคม และตัวแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 18.55 น. นายภูมิธรรม แถลงภายหลังการประชุมว่า สมช.ได้รวบรวมข้อมูลทุกฝ่ายทุกส่วนแล้ว เห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ มีประชาชนทั้งหมด 557,500 กว่าคดี รวมเงิน 86,000 กว่าล้านบาท แต่ละวันมีความเสียหาย 80 ล้านบาท ถือเป็นการสรุปชัดเจน จากหน่วยงานด้านข่าวที่เกี่ยวข้องว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อพี่น้องประชาชนและทั่วโลก
“ สมช. จึงมีมติให้ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต ตัดน้ำมัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 ก.พ. เป็นต้นไป ซึ่งผมจะกลับไปเซ็นหนังสือในคืนวันเดียวกันนี้ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้รัฐบาลเมียนมารับทราบ ให้แจ้งสถานพยาบาลให้รับรู้และเตรียมตัว โดยจะเป็นการตัดทั้ง 5 จุดตามที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวพันกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ทั้งนั้น เราถือว่าเรื่องนี้เป็นความทุกข์ของประเทศ และประชาชนที่เผชิญอยู่เป็นเรื่องที่เราต้องดูแล“ รมว.กลาโหม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราแจ้งว่าเราจะตัดเพราะมีปัญหาความมั่นคง เมื่อเราแจ้งแล้วรัฐบาลเมียนมา จะดำเนินการอย่างไรก็เป็นเรื่องของรัฐบาลเมียนมา เราไม่ได้เข้าไปแทรกแซง ด่านชายแดนทั้งหมด เราจะจัดการให้สอดรับกับการซีนชายแดน 51 อำเภอ ซึ่งจะสามารถควบคุมเรื่องนี้ได้ทั้งหมด ซึ่งมติสมช. จะได้ชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
เมื่อถามว่า รัฐบาลเมียนมาจะเข้าใจ และจะไม่ตอบโต้ด้วยการตัดแก๊สจนบานปลายใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เคยหารือกันซึ่งเขามีความเข้าใจว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทย แต่เป็นปัญหาของนานาชาติ เพราะมีบุคคลหลายชาติถูกหลอกเข้าไปในนั้น
เมื่อถามย้ำว่า เขาจะไม่ตอบโต้เราใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาต้องใช้ดุลยพินิจ
เมื่อถามว่า หากพื้นที่ที่ถูกตัดไฟไปแล้ว แต่มีการลักลอบแอบเดินสายไฟใหม่จะดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากมีการลักลอบเดินสายไฟ เราก็จะดำเนินการ เราต้องพูดคุยกับชายแดนทั้งหมด เพื่อแก้ปัญหาอยู่แล้ว และหากทางเมียนมาจะใช้เครื่องปั่นไฟก็เป็นเรื่องของเขา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ 5 จุด ที่จะถูกตัดไฟได้แก่ 1.จุดซื้อขายบริเวณบ้านเจดีย์สามองค์ - เมืองพญาตองชู รัฐมอญ โดยบริษัท Mya Pan Investment and Manufacturing Company Limited เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 2.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง - เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน โดยบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป(พีแอนด์อี) จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
3.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย - พม่า - เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน โดยบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 4.ซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย - พม่า แห่งที่2 - อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยบริษัท Nyi Naung Oo Company Limited และ บริษัท Enova Grid Enterprise (Myanmar) Company Limited เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
5.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง - อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง โดยบริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry and Manufacturing Company Limited (SMTY) เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา