วันที่ 4 ก.พ.68 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บรรยากาศการหารือระหว่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานอาเซียน และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประธานอาเซียน เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเชื่อว่าการหารือครั้งนี้มุ่งเน้นในกรอบการพัฒนาระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเมืองของทั้งสองประเทศ

นายจักรภพ ระบุว่า ทั้งสองผู้นำมีแนวคิดที่สอดคล้องกันในเรื่องการพัฒนา โดยตระหนักดีว่าการเติบโตของประเทศต้องอาศัยความร่วมมือ มากกว่าการแข่งขันหรือแยกตัวดำเนินการเพียงลำพัง ซึ่งประเทศไทยและมาเลเซียต่างก็มีระดับการพัฒนาเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกัน จึงเป็นโอกาสดีในการขับเคลื่อนความร่วมมือในระดับภูมิภาค ขณะที่รายละเอียดของการหารือในครั้งนี้ ดร.ทักษิณ จะเป็นผู้แถลงชี้แจงในเร็วๆนี้

นายจักรภพ  กล่าวว่า  การพัฒนาประเทศในยุคปัจจุบันต้องอาศัยความประนีประนอมกับกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย ซึ่ง ดร.ทักษิณ และนายอันวาร์ ต่างก็มีประสบการณ์ทางการเมืองและวุฒิภาวะเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยไม่จำเป็น เนื่องจากต่างเคยเผชิญความท้าทายทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและบทบาททางการเมืองของตนเองมาแล้ว

นายจักรภพ คาดการณ์ว่า หัวข้อสำคัญที่มีการพูดคุยกันจะเกี่ยวข้องกับแนวทางการทำงานของ ดร.ทักษิณ ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ว่าจะสามารถสนับสนุนกระบวนการพัฒนาในภูมิภาคได้อย่างไร โดยอาจกำหนดแนวทางเป็นทั้งนโยบายเร่งด่วนและวิสัยทัศน์ระยะยาว

“ผมเชื่อว่าการหารือครั้งนี้จะนำไปสู่แนวทางที่เป็นประโยชน์ และช่วยให้เรามีเครื่องมือเพิ่มเติมในการพัฒนาประเทศ ปัญหาหลายอย่างที่บางฝ่ายพยายามทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง เช่น ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมาร์ หรือกัมพูชา ผมเชื่อว่ามีแนวทางแก้ไขได้ในกรอบความร่วมมือดังกล่าว แทนที่จะกลับไปใช้แนวทางความขัดแย้งแบบเดิม ๆ ที่สิ้นเปลืองเวลาและทรัพยากรของประเทศ” นายจักรภพ กล่าว 

นายจักรภพ กล่าวว่า การสร้างความร่วมมือที่สร้างสรรค์เป็นแนวทางที่เหมาะสมกว่า ในการรับมือกับปัญหาระดับภูมิภาค แทนที่จะใช้ประเด็นดังกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมย้ำว่าการรอผลการหารือของทั้งสองผู้นำและนำไปใช้เป็นกรอบความร่วมมือจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน