เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 4 ก.พ.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  กล่าวถึงการประเมินการเลือกตั้ง นายก อบจ. จะมีผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตหรือไม่ว่า เป็นการแสดงให้เห็นถึงระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ตอนนี้ทุกอย่างจบแล้ว ต้องมองไปข้างหน้า แข่งขันกันเสร็จก็กลับมาทำงานทำประโยชน์ให้บ้านเมืองด้วยกันต่อไป 

เมื่อถามว่า เครือข่ายสีน้ำเงินมีเคล็ดลับอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าแยกสีแยกฝ่าย เวลาเลือกตั้งก็เลือกตั้งกันไป เดี๋ยวปี 2570 ก็มาแข่งกันใหม่ ผลออกมาเป็นอย่างไร ตัวเลขเป็นอย่างไร จะรวมกันอย่างไร ใครเป็นรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้านก็มีรูปแบบของมันอยู่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลาทุก 2 ปี 3 ปี 4 ปี ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา 

เมื่อถามว่า เวลาเลือกตั้งทุกคนประกาศเป็นอิสระหมด แต่พอประกาศผลการเลือกตั้งก็มีการเมืองเข้ามา เช่นที่จังหวัดเชียงราย นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนก็มีความอิสระ ในส่วนของจังหวัดเชียงราย มาสวัสดีปีใหม่ ในวันตรุษจีน เขามาทุกปี เพราะเป็นพี่สาวของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถามว่าเสียหายตรงไหน แม้แต่ว่าที่ นายก อบจ.ที่เป็นบิดาของนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย ชนะการเลือกตั้งตนก็ดีใจ  ญาติของคนใกล้ชิดที่ไม่ใช่แค่สองคนนี้ หากชนะ ตนก็ดีใจ รวมถึงดีใจกับนายกอบจ. ทั่วประเทศ 

เมื่อถามว่า ช่วงการหาเสียงการเมืองท้องถิ่น มีการปราศรัยเสียดสีกันรุนแรง มองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า พอเห็นไมค์ก็องค์ลง  เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่เห็นประชาชนมาฟังเป็น 10,000 คน ขนาดตนพูดติดอ่างเวลาหาเสียง ยังแหลงใต้ได้เลย อู้คำเมืองก็ได้ 

เมื่อถามถึง กรณีที่มีการวิจารณ์หลังผลการเลือกตั้งออกมาว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สิ้นมนต์ขลังแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า "ไม่มีหรอกสิ้นมนต์ขลัง จอมยุทธ์ก็คือจอมยุทธ์ ใครลองไปว่าท่านสิ้นมนต์ขลัง คงจะประสบความหายนะอย่างที่ไม่เคยคาดการณ์หรือประมาณอะไรได้ ไม่มีหรอกครับ ยิ่งน่ากลัว"

เมื่อถามว่าจากวลี “ไล่หนูตีงูเห่า” จนถึง “การเมืองท้องถิ่นอย่าให้คนนอกเข้ามายุ่ง” เรื่องนี้ได้คุยหรือเคลียร์กันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ต้องเคลียร์อะไร เป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าจะโกรธก็ตั้งแต่สมัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว ที่ประกาศไล่หนูตีงูเห่า พอถึงเวลาก็ร่วมรัฐบาลกันท่านก็เชิญไปกินช็อคมิ้นต์ ที่ตึกโอเอไอ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเก่า ทุกอย่างอย่าไปคิดมาก ไม่เช่นนั้นจะทำอะไรไม่ได้ ถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้งก็ใส่กันไป เป็นบทบาทลีลาในการหาเสียง ทำให้ตัวเองประสบชัยชนะ”

เมื่อถามว่า ที่เชียงรายและศรีสะเกษได้บอกหรือไม่ว่าทำอย่างไรถึงชนะการเลือกตั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า เขาทำงานในพื้นที่มาตั้งกี่ปีเป็นอดีตนายกอบจ.ศรีสะเกษ 4 สมัย 24 ปี ตั้งแต่นางสาวไตรศุลี ยังกินข้าวไม่เป็น ส่วนที่เชียงรายก็เป็นอดีตนายกอบจ.สองสมัย

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปัจจัยในการชี้ขาดการเลือกตั้งครั้งนี้ มาจากกระสุน นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ากระสุนเป็นปัจจัยชี้ขาด ตนคิดว่าทุกคนจะชนะหมด พร้อมยกตัวอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มีฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร ตนคูณสิบ คูณยี่สิบ ยังไม่ได้ครึ่งของนายธนาธรเลย ตนคิดว่ากระแสและความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่น เป็นเรื่องสำคัญที่สุด อยู่ที่ใครทำงาน พร้อมถามว่าจังหวัดบุรีรัมย์กระสุนหรือไม่ ทำไมคะแนนห่างกัน อย่าดูถูกประชาชนอยู่ที่การทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เดินมาถึงจุดให้สัมภาษณ์พอดี เพื่อเตรียมร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุทินจึงกล่าวว่า “ มท.3 อุทัยธานีกระสุนหรือไม่ อุทัยธานีกระสุนน่ากลัวกว่า กระสุนจริง” ก่อนหัวเราะ และเดินเข้าไปร่วมประชุมครม.พร้อมนางสาวซาบีดา