เจาะศึกเลือกตั้ง ทต.หนองกี่ บุรีรัมย์เดือด “อดีตนายกฯ” ปะทะ “อดีตผู้สมัคร ส.ส.”สูสี เสียงสวรรค์ ปชช.ชี้ขาด

หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำเทศบาลตำบลหนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้เปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ (นายก ทต.หนองกี่) จ.บุรีรัมย์ กรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ(ลาออก)  เมื่อวันที่ 13-17 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา และจัดการเลือกตั้งในวันที่ 16 ก.พ. 2568 นี้ ปรากฏว่า มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ จำนวน 2 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นางสาวนันทนิตย์ จิตหนักแน่น หรือ “นายกฯ จอย” เป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ สมัยที่ผ่านมา  ในนามทีมกลุ่ม “ฅนพัฒนาหนองกี่” และหมายเลข 2 นายสุพิศ คิดรอบ หรือ “ดีเจ อ้ายเซียงช้าง” อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคก้าวไกล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ หมายเลข 2 ในนาม “กลุ่มรักษ์หนองกี่” ทำให้อุณหภูมิการเมืองท้องถิ่นบุรีรัมย์กลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง มาวิเคราะห์เจาะลึก ผู้สมัครนายก ทต.หนองกี่ ทั้ง 2 คน ว่ามีดีเด่นดังอะไรบ้าง และกระแสประชาชนชาวหนองกี่ จะเลือกใครเข้ามาเป็นนายก ทต.หนองกี่ ในครั้งนี้


เริ่มที่นางสาวนันทนิตย์ จิตหนักแน่น หรือ “นายกฯ จอย” เป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ สมัยที่ผ่านมา คราวนี้มาลงสมัครนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ เพื่อป้องกันแชมป์อีกสมัย ในนามทีมกลุ่ม “ฅนพัฒนาหนองกี่” ภายใต้สโลแกน “ทำงานทันที หนองกี่ต้องไปต่อ”  และ “NEXT หนองกี่ จอย นันทนิตย์ จิตหนักแน่น” ซึ่งจากการทำงานที่ผ่านมา ได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจน มีผลงานเป็นรูปธรรม ทำให้ประชาชนชาวหนองกี่ ต่างก็ให้การยอมรับ และอยากให้เข้ามาทำงานสานต่อนโยบายอีกสมัย

นางสาวนันทนิตย์ กล่าวว่า ไม่มีความหนักใจหรือกังวลใจอะไรกับการลงสู้ศึกเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ อีกสมัย ในครั้งนี้ ก็ต้องบอกเลยว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่มาก แต่การต่อสู้ในที่นี้ หมายถึงการต่อสู้กับตนเอง ที่จะเดินไปถึงเป้าหมายที่อยากจะทำให้หนองกี่ มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี 8 เดือนที่ผ่านมา ได้ทำงานเพื่อประชาชนชาวหนองกี่เชื่อมั่นว่าประชาชนได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงการพัฒนาไปในระดับหนึ่ง อีกทั้งได้รับทราบปัญหา มองเห็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ จึงทำให้ได้ศึกษาและเตรียมวางรากฐาน โดยไม่ต้องเสียเวลารออีกต่อไป   

           

    การเลือกตั้งครั้งนี้ มีผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนชาวหนองกี่ในทุกมิติจริงๆ เราต้องเลือกคนที่สามารถทำงานได้ทันที เลือกคนที่สามารถประสานได้ในทุกมิติ เป็นที่ยอมรับในทุกภาคส่วน และหลังจากเลือกตั้งเสร็จ เราก็พร้อมทำงานทันทีให้หนองกี่เดินหน้า พัฒนาต่อไป

ทางด้าน คู่แข่ง อย่าง นายสุพิศ คิดรอบ หรือ “ดีเจ อ้ายเซียงช้าง” อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคก้าวไกล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ ในนาม “กลุ่มรักษ์หนองกี่” เริ่มเล่นการเมืองครั้งแรก จากสนามการเมืองท้องถิ่นด้วยการลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาล(สท.)ตำบลหนองกี่ และได้รับการเลือกตั้ง จากนั้นผันตัวเองขึ้นสู่สนามการเมืองใหญ่ ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จ.บุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 7 ในนามพรรคก้าวไกล แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งได้คะแนนมาเป็นอันดับที่สาม 18,535 คะแนน ก่อนจะตัดสินใจกลับมาลงสนามการเมืองท้องถิ่นอีกครั้ง ด้วยการลงสมัครนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ ครั้งนี้ ในนาม “กลุ่มรักษ์หนองกี่” ที่ผู้นำชุมชน ชาวบ้านในตำบลหนองกี่ให้การสนับสนุน

              นายสุพิศ คิดรอบ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงตามหมู่บ้าน ชุมชนในเขตพื้นที่เลือกตั้ง ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนอย่างดีและอบอุ่น โดยทางกลุ่มมีสโลแกนหาเสียง “ถึงเวลาเปลี่ยน หนองกี่ต้องดีกว่าเดิม” พร้อมกับนโยบาย 9 นโยบายหลัก คือ 1.ท้องถิ่นโปร่งใสทำได้ทันที 2.ท้องถิ่น 24 ชั่วโมง 3.ด้านการศึกษา กีฬาประเพณี ศิลปะวัฒนธรรมยิ่งใหญ่ 4.เมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ 5.เมืองน่าอยู่ที่ทุกคนเท่ากัน 6.ท้องถิ่นดิจิทัล 7.นโยบายโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนประชาชนปลอดภัย 8.ท้องถิ่นก้าวหน้าน้ำประปาดื่มได้ และ 9.นโยบายเรื่องการร้องเรียนร้องทุกข์สายตรงนายก ผ่านระบบนายกใส่ใจ

นายสุพิศ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ตนไม่รู้สึกหนักใจ แม้ว่าคู่แข่งจะเป็นอดีตนายกฯ สมัยที่ผ่านมา เพราะผลการเลือกตั้งขึ้นอยู่ที่พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสิน โดยส่วนตัวก็มีความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทิ้งพื้นที่ อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ประกอบกับการเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา ตนเองก็ได้คะแนนชนะการเลือกตั้งในเขตเทศบาล ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่มีความหวั่นเกรงใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งพี่น้องประชาชนต่างก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีด้วย จึงทำให้มั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาอย่างแน่นอน

สำหรับบรรยากาศการหาเสียงเริ่มคึกคัก พบว่า ผู้สมัครใช้วิธีการแนะนำตัวผ่านสื่อโซเชียล และจัดทีมงานออกไปติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ พร้อมมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปทั่วในเขตเลือกตั้งตลอดทั้งวัน อีกทั้ง ยังมีการลงพื้นที่ออกพบปะตามหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อขอคะแนนเสียงอีกด้วย

ดังนั้น ศึกเลือกตั้งนายก ทต.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้ ทั้ง นางสาวนันทนิตย์ และ นายสุพิศ ซึ่งทั้งสองล้วนเป็นนักการเมืองในท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ต่างก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แม้จะมีการแบ่งกลุ่มขั้วการเมืองกันอย่างชัดจน

อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบนั้น ยังไม่สามารถฟันธงชี้ชัดว่าใครจะเป็นผู้ได้เปรียบในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะทั้งสองต่างก็มีฐานคะแนนเสียงในพื้นที่ไม่น้อยไปกว่ากัน ซึ่งการแข่งขันเข้มข้นกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะต่างฝ่ายก็มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง และทีมงานที่สนับสนุนว่าจะได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้ ท้ายที่สุดแล้วขึ้นอยู่ที่เสียงสวรรค์ของพี่น้องประชาชนชาวตำบลหนองกี่ว่า จะยกมือให้ใครเข้ามาเป็นนายก ทต.หนองกี่ ครั้งนี้

ซึ่งคงต้องรอในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ จะเป็นเครื่องชี้วัดได้ว่าพี่น้องประชาชนชาวตำบลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ จะเลือกใครเป็น “นายก ทต.หนองกี่” เข้ามาทำหน้าที่บริหารงานเทศบาลตำบลหนองกี่ ครั้งนี้.