"ทรัมป์" เบรกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา-เม็กซิโก ขณะที่จีนยังเดือดต่อเก็บภาษี 4 ก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จัสติน ทรูโด นายกรัฐมตรีแคนาดาเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน
นายกรัฐมนตรีทรูโดประกาศผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า "ผมเพิ่งคุยโทรศัพท์กับปธน.ทรัมป์ ซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยดี" และยังระบุด้วยว่า การระงับมาตรการภาษีดังกล่าว เป็นการตอบสนองต่อข้อตกลงของแคนาดาที่จะจัดการไม่ให้มีการลักลอบนำสารเสพติดเฟนทานิลข้ามพรมแดนเข้าสู่สู่สหรัฐฯ"
โดยนายกรัฐมนตรีทรูโดได้โพสต์ข้อความดังกล่าว เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ ปธน.ทรัมป์ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 25% ออกไปอีก 1 เดือน ภายหลังจากที่ ปธน.คลอเดีย เชนบาม ผู้นำเม็กซิโก ยินยอมที่จะส่งกำลังทหารจำนวน 10,000 นายไปประจำการตามแนวชายแดนตอนเหนือเพื่อป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐ โดยเฉพาะยาเฟนทานิล
ปธน.ทรัมป์ระบุบนแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล (Truth Social) ว่า "ในช่วงเวลา 1 เดือนนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และเม็กซิโกจะเจรจาร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และผมคาดหวังที่จะมีส่วนร่วมในการเจรจากับปธน.เชนบาม ในความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงระหว่างประเทศของเรา"
ด้าน ปธน.เชนบามระบุผ่านทาง X เช่นกันว่า "เรามีการสนทนาที่ดีกับปธน.ทรัมป์ เป็นการสนทนาที่เคารพต่อความสัมพันธ์และอธิปไตยของเรา ทำให้เราสามารถบรรลุข้อตกลงหลายประการ"
ขณะที่มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนยังคงดำเนินอยู่ต่อไป และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 ก.พ.68 โดยทางโฆษกของทำเนียบขาวกล่าวว่า ทรัมป์ไม่มีกำหนดการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นพิงของจีน จนกว่าจะถึงสิ้นสัปดาห์นี้ ทรัมป์ระบุอีกว่า หากจีนไม่ยุติการขนส่งยาเฟนทานิลมายังสหรัฐ ตัวเลขภาษีนำเข้าจะสูงขึ้นกว่า 10% ที่ได้กำหนดไว้
โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ก.พ.) ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร โดยกำหนดให้เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 ก.พ.68
#สหรัฐ #สงครามการค้า #ข่าววันนี้ #ทรัมป์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์