วันที่ 3 ก.พ.2568 เมื่อเวลา 14.00 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานที่ประชุม วาระพิจารณาญัตติ ให้วุฒิสภาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ต และมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ของนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว.เป็นผู้เสนอ 

โดยนายวุฒิชาติ เสนอว่าปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชน เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินในรูปแบบต่างๆ ด้วยการใช้โทรศัพท์ โดยแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ สร้างสถานการณ์ทำให้ผู้เสียหายตกใจว่ามีส่วนร่วมกับการกระทำความผิด การหลอกลวงผ่านอีเมลหรือเอสเอ็มเอสปลอม หรือเชิญชวนทำงาน หลอกให้กดลิ้งค์ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อกดลิงค์เข้าไปทำการกรอกข้อมูลในหน้าเว็บไซต์ปลอมที่ถูกสร้างขึ้น หลอกลวงให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่ หลอกให้ซื้อสินค้าออนไลน์

โดยมิจฉาชีพจะสร้างโปรไฟลว์ปลอมหลอกลวง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายมักเป็นผู้สูงอายุ และผู้ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีจะถูกหลอกลวงได้ง่าย รวมถึงกลุ่มที่มีปัญหาด้านการเงิน หรือผู้ที่ต้องการสร้างรายได้จากกลลวงของมิจฉาชีพทำให้ประชาชนที่สุจริตต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก โดยไม่สามารถตามเอาคืนได้ เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพโอนเงินเข้าบัญชีม้า และโอนออกนอกประเทศอย่างรวดเร็ว 

นายวุฒิชาติ กล่าวต่อว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมานานและมีประชาชนตกเป็นเยื่อมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพสร้างกลลวงรูปแบบใหม่ๆ สร้างสถานการณ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ จนต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อสภาพจิตใจ อับอาย มีปัญหาในครอบครัว โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีการลักลอบใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคมของไทย นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยแล้วยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศอีกด้วย

จากนั้นสมาชิกได้อภิปรายแสดงความเห็นด้วยกับญัตติดังกล่าวเพราะถือว่ามีความสำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องร่วมกันแก้ปัญหา โดยจะส่งข้อเสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อพิจารณาดำเนินการเร่งด่วนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงกฎหมาย การเพิ่มโทษผู้ประกอบการ การเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การตัดน้ำ ตัดไฟฟ ไปปรระเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการแก้ปัญหาที่มิจฉาชีพใช้ระบบเอไอเข้ามาหลอกลวงเหยื่อ

นายนพดล อินนา สว. อภิปรายว่า วันนี้ตนขออนุญาตให้ “เอไอ” อภิปรายแทน ซึ่งตนพูดถึงเอไอมานานแล้ว แต่วันนี้ขอนำเสนอให้เป็นรูปธรรมว่า เอไอมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ทั้งภาพ เสียง และเนื้อหา ต่างจากตัวจริงแค่ไหน

จากนั้นนายนพดล ได้เปิดคลิปเอไอ ซึ่งเป็นภาพของนายนพดล อภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าว และเมื่อเอไอพูดจบ นายนพดล กล่าวว่า "ทุกท่านคงเห็นแล้ว จริงๆผมแยกแทบไม่ออกว่าตัวนั้นตัวจริงหรือตัวนี้ตัวปลอม ทำให้ผมหวั่นใจว่าถ้าภาครัฐที่กำลังจะต่อสู้กับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หรืออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เหล่านี้ถ้ามีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่เพียงพอหรือมีจำนวนน้อยกว่าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เหล่านั้น ลองนึกภาพดูว่าต่อไปนี้ถ้าเราจะประกาศสงครามกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เพื่อแก้ไขปัญหาไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเขาเก่งกว่าเรา"