รัฐบาลจัดยุทธการ จับ “บริษัทผี” ที่จดทะเบียนไว้หลอก ปชช.ในทุกรูปแบบ เดินหน้าเพิ่มมาตรการเข้มงวด ปราบ บริษัทผีให้สิ้นซาก
วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.30 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลสั่งการ เดินหน้าเพิ่มมาตรการป้องกันนิติบุคคล ที่จดทะเบียนโดยมีเป้าหมายที่จะใช้หลอกลวงประชาชน หรือที่เรียกว่า “บริษัทผี“ โดยกระทรวงพาณิชย์ มีเป้าหมายที่ต้องการกำจัดนิติบุคคลผี ที่จะมาหลอกลวงประชาชน โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ยกร่างคำสั่งนายทะเบียนกลาง เพื่อเรียกเอกสารเพิ่มเติมกรณีที่มาจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่หรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งสำนักงาน ที่จะแสดงให้เห็นว่าเจ้าของที่ตั้งยินยอมให้ใช้เป็นสำนักงานนิติบุคคล เช่น สัญญาเช่า หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่จากเจ้าบ้าน โดยจะเร่งเปิดประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นตามกระบวนการยกร่างกฎหมาย เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียแจ้งความเห็น และผลกระทบต่อร่างคำสั่งดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับการตรวจเช็กสถานที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคล จะจัดทำระบบให้ประชาชนตรวจเช็กว่าบ้านหรือที่อยู่ มีการนำไปใช้เป็นที่ตั้งของนิติบุคคลหรือไม่ คาดว่าจะเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ หากประชาชนพบว่ามีการนำที่อยู่ไปใช้โดยไม่ได้ให้ความยินยอม สามารถแจ้งมายังกรม สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรืออีเมล [email protected] (เฉพาะกรุงเทพฯ) หรือสายด่วน 1570
นายคารมกล่าวต่อว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะประสานความร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตรวจสอบสถานที่ตั้งนิติบุคคลตามที่ผู้ขอจดทะเบียนได้แจ้งไว้และปักหมุดพร้อมแสดงภาพถ่ายในลักษณะแผนที่ Google Map เพื่อให้ตรวจสอบที่ตั้งบริษัทและเห็นภาพจริง หากตรวจสอบพบว่านิติบุคคล มีที่ตั้งไม่ตรงกับที่แจ้งจดทะเบียน จะระบุหมายเหตุในหน้าหนังสือรับรองว่า “ไม่มีสถานที่ตั้งจริง” เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ที่ต้องการจะทำธุรกิจระมัดระวัง และจะส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท นอกจากนี้ ยังอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเข้มงวดการมายื่นจดทะเบียนของบุคคล ที่มีรายชื่อในบัญชี HR-03 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หากมายื่นจดทะเบียนนิติบุคคล หรือแจ้งชื่อเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัท จะเรียกมาแสดงตน หากไม่มาก็จะไม่จดทะเบียนให้ และยังจะส่งข้อมูลต่อให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) เพื่อติดตามขยายผล ส่วนกรณีที่มีนิติบุคคล ใช้ที่อยู่เดียวในการจัดตั้งหลาย ๆ บริษัท สามารถทำได้ เนื่องจากไม่ได้มีข้อห้ามตามกฎหมาย ขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างพัฒนาระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยแจ้งเตือนประชาชนทั่วไปให้ทราบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น” นายคารม กล่าว