วันที่ 2 ก.พ. 68 พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางลงพื้นที่ อ.พบพระ และ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามความคืบหน้าในการทำงานของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งได้ช่วยเหลือหญิงสาวชาวฮ่องกง คือ นาง เอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ชาวฮ่องกง ที่ถูกหลอกลวงให้ไปทำงานกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ในเมียนมา ซึ่งก่อนหน้านี้ สำนักงานความมั่นคงเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้ขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยติดตามเบาะแสของชาวฮ่องกงดังกล่าว เนื่องจากเป็นกระทรวงที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการป.ป.ส. จึงน่าจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน และล่าสุด ป.ป.ส. สามารถช่วยเหลือชาวฮ่องกงกลุ่มดังกล่าวได้แล้ว 2 ราย 

โดยรายแรก คือ นาย บี (นามสมมติ) ซึ่งหนีข้ามมายังฝั่งไทยเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และวันนี้ คือ นาง เอ (นามสมมติ) ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า นาย บี ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชาวจีนที่เป็นนายหน้ามาชักชวนไปทำงานเป็นแอดมินสแกมเมอร์ในเมียนมา และเปิดเผยวิธีการที่ใช้จูงใจให้ไปร่วมขบวนการ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของ ป.ป.ส. เพื่อใช้ขยายผลปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นขบวนการเดียวกันอยู่แล้ว

ทั้งนี้ สื่อมวลชนควรช่วยเผยแพร่ข้อมูลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจด้วยว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่านของผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่เหตุร้ายไม่ได้เกิดขึ้นภายในประเทศไทย เพราะขณะนี้ เจ้าหน้าที่จับตามองความเคลื่อนไหวของวงการธุรกิจสีเทาอย่างเข้มงวด ตามนโยบายของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เหตุที่ตนให้ความสำคัญกับกรณีดังกล่าว ก็เพราะการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ และความร่วมมือดังกล่าว จะช่วยยกระดับความร่วมมือระหว่างไทยกับรัฐบาลต่างชาตื ในประเด็นอื่น ๆ ด้วย เช่น การค้า การลงทุน ตลอดจน การแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยี เป็นต้น