หลังจากเกิดกระแสโจมตี หลักสูตร วิทยาลัย ป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)  ทั้งการคัดเลือก นักศึกษา  วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต ( วปอ.บอ.)รุ่น2  ที่มีแต่คนนามสกุลดัง ทายาทนักการเมือง นักธุรกิจ  ว่าหวังสร้างคอนเนคชั่น รวมทั้ง การตอกย้ำ ของ นายเศรษฐา  ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี  ที่ไปบรรยายที่ วปอ. ตอกย้ำ การเป็น อภิสิทธิ์ชน
การเป็นคน 0.001 % ของประเทศ ที่ควรจะทำอะไรได้มากกว่า ที่เป็นอยู่  มากกว่า โยนให้เป็นหน้าที่ ของรัฐบาล  และ ไม่ควรใช้ ตอนเนคชั่น วปอ. ในการหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง นั้น

พลโท ทักษิณ  สิริสิงห  ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (ผอ.วปอ.) วิทยาลัย ป้องกันราชอาณาจักร  กล่าวว่า  วปอ. ก่อตั้งมา จะครบ 70 ปี ในงันที่3 กพ. นี้ ซึ่งจะเป็นวันที่  นักศึกษา วปอ. 67 รุ่นปัจจุบัน  และรุ่นต่างๆ จะมารวมตัวกัน  ทำพิธีสงฆ์  และร่วมกิจกรรม ”คืนสู่เหย้า “ ที่จะเป็นโอกาสให้  พี่น้องจะได้พบเจอกัน  และ พวกเราจะได้มา ถกแถลง กันนอกห้องเรียน ถึง สถานการณ๋ที่ วปอ.กำลังเผชิญอยู่

ประเด็นหนึ่ง คือ อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร   เพราะ เมื่ออ่านข่าวฟังข่าวกันแล้ว มีแต่เรื่องไม่สบายใจ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง คอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด ปัญหาปากท้อง เงินเดือนไม่พอใช้ น้ำท่วม จบจากน้ำท่วมก็มาเจอน้ำแล้ง  
ฝุ่น ควัน พิษในอากาศ การอยู่ท่ามกลางนโยบายของประเทศมหาอำนาจ ที่ต่อสู้จนทำให้เกิดผลกระทบกับสังคมและประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

”ผมเชื่อว่า เราทุกคนคงคิดเหมือนกัน คือ ยังไม่เห็นแสงสว่าง ที่ปลายอุโมงค์ ที่จะมองเห็นว่าประเทศไทย จะมีหนทางให้เกิดการพัฒนาลืมตาอ้าปาก มีกินมีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี  ไปในทิศทางใด

อีกทั้ง ปัญหาเรื่องต่างๆเหล่านี้ นับวันจะมีความสลับซับซ้อน และส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน มากยิ่งขึ้น การแก้ปัญหา คงไม่ใช่ ตกอยู่ที่ หน่วยงานของรัฐ  หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เท่านั้น 

แต่พวกเราทุกคนเชื่อว่ารัฐบาลซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ปัญหา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับการพัฒนาชาติบ้านเมือง แต่การปล่อยให้รัฐบาล เป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงกลุ่มเดียว ก็คงอาจจะไม่ใช่ เราทุกคนมีหน้าที่ร่วมกันปกป้องและพัฒนาชาติร่วมกัน

ดังนั้น การที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เรา ก่อตั้งมา70 ปี เพื่อเป็นสถาบันหนึ่ง ที่มีเจตนารมย์เช่นนั้น ในการช่วยหาทางในการแก้ไขปัญหาประเทศ ในการนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี วปอ.เรามีเจตนารมย์ในการสร้างความร่วมมือ จากหน่วยงานทหาร ตำรวจ ราชการ รวมถึงภาคประชาชน ให้เข้ามาเรียนรู้สถานการณ์ ร่วมกันวิเคราะห์และหาทางออก ให้กับประเทศชาติร่วมกัน

“หลายครั้งที่ วปอ อาจถูกมองว่าเป็น ”บุคคลพิเศษ“ เป็นบุคคลที่ มีตำแหน่งบริหารระดับสูง มาเรียนร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ ผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้  เนื่องจากเจตนารมย์ที่เราต้องการ ผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นกำลังพัฒนาชาติ  เรามาเรียนด้วยกันถึง 11 เดิอน และทำกิจกรรมร่วมกัน ตลอด ทั้งปี จนกล่าวกันว่า เพื่อน วปอ. เป็นเพื่อนกลุ่มสุดท้ายในชีวิต และเป็นเพื่อนกันตลอดไป

แต่ปัจจุบันเรามีกระบวนการคัดเลือกที่เข้มข้นชัดเจน มีกระบวนการเรียนรู้ และศึกษาแนวทางการแก้ปัญหา อย่างเป็นระบบ เราไม่ได้มาร้องรำทำเพลง เราไม่ได้มาหาความสุขสบาย

ทุกวันนี้ เรามีการปรับหลักสูตร เข้าสู่ วปอ.ยุคใหม่ ที่ไม่เหมือนเดิม แล้ว วปอ.ให้ความรู้ทางพื้นฐานทางวิชาการ นักศึกษาทุกคนต้อง ทำงานหนัก  เรียนวิชาการเข้มข้น จาก นักศึกษา วปอ.67 รุ่นนี้ เป็นรุ่นของการเปลี่ยนผ่าน ไปสู่ วปอ.ยุคใหม่  จึงเรียนหนักมากขึ้น  กิจกรรม มากขึัน  มีการลงพื้นที่ ศึกษาข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อกลับนำมาวิเคราะห์ และหาทางออกกับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

”ใครก็ตามที่เข้ามาหาผลประโยชน์ ส่วนตัว เราถือว่าคนนั้นไม่ใช่นักศึกษา วปอ.ที่แท้จริง ผมขอยืนยันด้วยความจริงใจ ว่า วปอ.ยุคใหม่ จะไม่ทำสิ่งที่ผิด จะมุ่งมั่นร่วมคิดร่วมพัฒนาชาติบ้านเมือง  เพื่อให้พี่น้องประชาชน ใช้ชีวิตอยู่อย่าง มีความสุขและปลอดภัย มีแนวทางการพัฒนารายได้ อย่างเป็นรูปธรรม ประเทศไทยต้องพัฒนา อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่น้อยชาติใดใดในอนาคต” พลโท ทักษิณ ระบุ

ที่สำคัญ  วปอ.ในยุคใหม่ ตามแนวทางของ พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด คือการให้ นักศึกษาวปอ. ที่มีศักยภาพและใช้คอนเน็คชั่นส์ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมโดยส่วนรวม  ด้วยโครงการ The TEN   ของนักศึกษา วปอ.10 หมู่ ในการทำโครงการช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติแบบครบวงจรและยั่งยืน  “One End Ten Ways” ที่นักศึกษา ต้องระดมความคิด ออกแบบโครงการ  ที่ไม่ใช่แค่ การบริจาค มอบของ มอบเงิน  แต่ต้องมีผลต่อสังคม ในภาพรวม

โดย 10 โครงการนี้ จะกระจาย ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศรวมถึงกรุงเทพมหานคร  ที่จะได้เห็น วปอ.ลงพื้นที่ ไปทำโครงการต่างๆเหล่านี้ 

ยกตัวอย่าง เช่น   โครงการช่วยเหลือ นักเรียนหูพิการทางการได้ยิน ให้มีงานทำ เมื่อจบการศึกษา โดย  นักศึกษา วปอ. ที่เป็น ผู้บริหารบริษัท จะช่วยฝึกอาชีพ และรับเข้าทำงาน

หรือ โครงการ Social Vaccine for HERO  ที่ นักศึกษาวปอ.ทำ โมเดลนำร่อง ในชุมชนคลองเตย กทม.  เพื่อสนับสนุน และดึงความสามารภของ เด็กๆในชุมชน ออกมา ทั้งด้วยการ ฝึกภาษา  เรียนภาษาอังกฤษ  การหารายได้จาก รีไซเคิ่ล ขยะ  ทุนการศึกษา และการหางานให้ทำในอนาคต  เป็นต้น 

ก่อนหน้านี้ ช่วงเกิดน้ำท่วม โคลนถล่ม ที่ แม่สายจ. เชียงราย นศ.วปอ.67 ก็ลงพื้นที่ พร้อม พลเอก ทรงวิทย์ ไปช่วยเหลือชาวแม่สาย และส่วนราชการ ในการสนับสนุน เครื่องมือในการล้างโคลน

และในช่วงนี้เป็นวันทหารผ่านศึก 3 กพ. นะกศึกษา วปอ.67 ก็ไปจัดกิจกรรม พบปะ ทานข้าวกับ ทหารผ่านศึก  เพิ่อ เป็นการรำลึกถึงความเสียสละของพวกเขาและฟังเรื่องเล่าจากสมรภูมิต่างๆที่บรรดาทหารผ่านศึกถ่ายทอดด้วยความภาคภูมิใจ ที่ บ้านทหารผ่านศึก รามอินทรา พร้อมจัดกิจกรรมสัปดาห์ แห่ง ทหารผ่านศึกผู้พิทักษ์แผ่นดิน