เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 1 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้วิดีโอคอลกับคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสจำนวน 5 คน ที่ขณะนี้อยู่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่อิสราเอลกล่าวว่า จากการพูดคุยเบื่องต้นทุกคนมีกำลังใจดีและดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือ
ด้านตัวแทนคนไทย กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนทุกคนที่ช่วยเหลือ ทำให้พวกตนได้ออกมานั่งตรงนี้ เหมือนทุกคนให้ชีวิตใหม่แก่พวกตนปลื้มใจเป็นอย่างมาก
ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า เป็นห่วงคนไทยตั้งแต่เกิดเหตุ เราติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่เป็นอะไรก็ดีใจ ทุกฝ่ายพยายามอย่างมากในการช่วยเหลือ
จากนั้นเวลา 18.50 น. น.ส.แพทองธาร ทวีตข้อความผ่านเอ็กว่า “ยินดีอย่างยิ่งที่ทุกท่านได้รับการปล่อยตัวและปลอดภัยค่ะ ที่ผ่านมารัฐบาลเร่งกำชับและประสานงานกับฝ่ายอิสราเอลในทุกระดับและโอกาส เพื่อให้การช่วยเหลือทุกท่าน รวมถึงคนไทยที่ยังคงถูกควบคุมตัวและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง จนได้รับข่าวดีว่า จะมีการปล่อยตัว ขอให้กระทรวงการต่างประเทศดูแลเรื่องสุขภาพและจิตใจของทุกท่านเป็นอย่างดี
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้สถานเอกอัครราชทูตติดตามเรื่องเงินพึงได้ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ท่านจะได้รับ ทั้งจากฝ่ายอิสราเอลและของไทย ทั้งเงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยแห่งชาติอิสราเอล จำนวน 1,000 เชคเกล/เดือน (ประมาณ 10,000 บาท/เดือน) จนถึงอายุ 67 ปี เงินจำนวน 12,000 เชคเกล/ปี (ประมาณ 120,000 บาท/ปี) (จ่ายหนึ่งครั้งต่อปี ระหว่างอายุ 67-80 ปี) เงิจจำนวน 15,000 เชคเกล/ปี (ประมาณ 150,000 บาท/ปี) (จ่ายหนึ่งครึ่งต่อปี เมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไป) รายได้จากการทำงานที่คงค้างจากนายจ้างอิสราเอล เงินสงเคราะห์กรณีเดินทางกลับประเทศจากภัยสงคราม จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 15,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพจากสิทธิประโยชน์ประกันสังคม
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ในการเร่งติดตามความช่วยเหลือตัวประกันคนไทยที่เหลืออีก 1 คน ให้ได้รับการปล่อยตัว รวมทั้งนำร่างของแรงงานไทยที่เสียชีวิตอีก 2 ราย กลับประเทศไทยโดยเร็ว“