วันที่ 31 ม.ค.68 นพ.ฒัชชณพงศ์ จงเจริญยานนท์ หมอเด็กเฉพาะทางโรคทางเดินหายใจ โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอม็อด หมอเด็กขอเล่า ระบุว่า...
ช่วงนี้พ่อแม่บางคนกังวลใจเพราะข่าววัคซีนมะเร็งปากมดลูก เพราะมีบางเพจจงใจนำข่าวที่มีการฟ้องร้องวัคซีน HPV (gardasil) ไปบิดเบือนว่าวัคซีนมีความอันตรายไม่ควรฉีด ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
วันนี้จะสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ฟัง 5 ข้อ
1. วัคซีน HPV ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ดีมาก โดยถ้าฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์จะยิ่งดีมากกว่าฉีดหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว จึงมีการแนะนำให้ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบขึ้นไป
2. ชนิดของวัคซีนเป็น Protein subunit คือการเอาชิ้นส่วนโปรตีนเล็กๆบางส่วนของไวรัสมาใช้เท่านั้น ซึ่งทำให้ side effect น้อยและมีความปลอดภัยสูง
3. มีการฟ้องร้องบริษัทที่ผลิตวัคซีน HPV ตัวนี้จริง โดยคนที่ฟ้องอ้างว่าเกิดอาการ postural orthostatic tachycardia syndrome (POTS) ซึ่งคิดว่าเป็นจากวัคซีนตัวนี้ แต่เบื้องต้นทางบริษัทยังปฏิเสธ แต่อยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์ว่าสาเหตุของ POTS เป็นจากอะไรกันแน่?
https://www.reuters.com/.../kennedy-played-key-role.../
4. นิตยสารในวงการแพทย์ที่ชื่อ PEDIATRICS ได้ตีพิมพ์เมื่อตุลาคม 2023 มีการทำงานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนตัวนี้ใน 13 ประเทศ โดยมีประเทศไทยอยู่ด้วย (Belgium, Brazil,Colombia, Costa Rica, Peru, Poland, South Africa, South Korea,Spain, Sweden, Taiwan, Thailand, and the United States) โดยฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก Gardasil9 ในเด็กอายุ 9-15 ปี ตั้งแต่ปี 2009 แล้วติดตามเคสไป10ปี พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกดีมากและไม่พบผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอะไร
5. การที่มีคนฟ้องร้องบริษัทวัคซีน ไม่ได้แปลว่าชนะคดีแล้ว ไม่ได้แปลว่าวัคซีนนั้นอันตรายหรือไม่ดี ควรหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนที่จะตกใจกลัว
Ref: https://publications.aap.org/.../Ten-Year-Follow-up-of-9...