วรวัจน์ ลงพื้นที่ จับมือ ผู้ลงสมัคร นายกฯ-ส.อบจ แพร่ กลุ่มฮักเมืองแป้ หาเสียง 8 อำเภอ สานต่อนโยบายหลักพรรค สู่ท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ของประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ ถึงบรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ โดยผู้สมัครนายก อบจ แพร่  เบอร์1 คือ นายประสงค์ ชุ่มเชย เบอร์ 2 นายอนุวัธ  วงศ์วรรณ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ที่หมดวาระ ในการหาเสียงของผู้สมัครแต่ละคน แต่ละพื้นที่ ต่างมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไป ขณะที่พรรคเพื่อไทยจังหวัดแพร่ โดย นายวรวัจน์  เอื้ออภิญญกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย เขต3 ลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับผู้สมัคร ของพรรคเพื่อไทยในนาม กลุ่มฮักเมืองแป้ โดยมีนายอนุวัธ  วงศ์วรรณ ผู้สมัครนายกองค์การบริหาส่วนจังหวัดแพร่ หมายเลข 2 และผู้สมัครสสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ทั้ง 8 อำเภอ ลงพื้นที่ หาเสียงกันอย่างเข้มข้น ในช่วยโค้งสุดท้าย ด้วยกลยุทธ์ รถแห่ชูนโยบายหลักของพรรคสู่คนในพื้นที่ให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ และการเดินหาเสียงตามตลาดสดในช่วงเช้า ของแต่ละวัน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ ที่เข้าถึงประชาชนและได้ใจมากที่สุดในขณะนี้

นายวรวัจน์  เอื้ออภิญญกุล สมาชิสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า นโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยมีนโยบาย ที่สำคัญและต่อยอดในพื้นที่ได้ ทั้งนโยบายด้านการเกษตร การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรกรรมซึ่งต่อยอดมาจากนโยบาย ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ของพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่จังหวัดแพร่ นอกจากการทำเกษตรกรรมแล้ว การทำสวนผลไม้ ของคนจังหวัดแพร่ มีครอบคลุมไปทั้ง 8 อำเภอ ตามฤดูกาล ที่ผลไม้สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวน แต่การส่งเสริมให้ความรู้แนะนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มนอกฤดูกาล เป็นอีกประเด็นสำคัญที่ต่อยอด ไปสู่เกษตรกรโดการนำความรู้ทักษะ ไปอบรมให้กับเกษตรกรในทุกพื้นที่ เพื่อส่งเสริมความรู้ และสร้างรายได้เพิ่มนอกเหนือจากรายได้รายได้ตามฤดูกาล ผลไม้ที่มีคุณภาพสูง อาทิ เทคนิคการปลูกผลไม้คุณภาพสูง ทุเรียน ส้มโอ ส้มเขียวหวาน พุทรา มะยงชิด ซึ่งเป็นแนวคิดในรูปแบบนวัตกรรมองค์ความรู้ใหม่ ที่ยังไม่เคยมีคนทำในรูปแบบนี้มาก่อนพัฒนาเพิ่มคุณภาพของผลไม้ เพิ่มราคา เหล่านี้ ต้องอาศัยการต่อยอดจากนโยบายหลักของพรรค ลงสู่พื้นที่ในแต่ละอำเภอ เพื่อเป็นการส่งต่อความรู้ให้กับเกษตรได้รับประโยชน์สูงสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดแพร่ มีเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ที่สร้างรายได้หลัก ทั้งส้มเขียวหวาน ทุเรียน ลำไย เงาะ พุทธา มะยงชิด ลางสาด ลองกอง มะขามหวาน ที่ผ่านมา เกษตรกรมีรายได้จากผลไม้ตามฤดูกาล แต่หลังจากที่นำเอานวัตกรรมส่งเสริม ให้ไม้ผลออกผลผลิตนอกฤดูกาล เป็นที่น่าพอใจที่สามารถสร้างรายได้เพิ่ม แต่การส่งเสริมทักษะ ต้องอาศัยคนในพื้นที่ เพื่อเป็นการต่อยอดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การอบรมให้ความรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนในพื้นที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกับดำเนินการให้ไปสู่ประชาชนเพื่อประโยชน์สูงสุด