ปภ.ประชุมปฏิบัติการกองบัญชาการ ปภ. แห่งชาติ บูรณาการเร่งแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM2.5 - KicK Off 3 ก.พ. นี้ ดีเดย์ ทุกพื้นที่ “ห้ามเผา”
วันที่ 30 ม.ค.68 นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยมี นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้บริหาร ปภ. ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมฯ พร้อมขับเคลื่อนการยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM2.5 โดยใช้ระบบบริหารจัดการแบบ Single Command รวมถึงกำหนดจัดกิจกรรม KicK Off รณรงค์ห้ามเผาพร้อมกันทุกพื้นที่ วันที่ 3 ก.พ.นี้ ณ ห้องประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสารธารณภัยแห่งชาติ
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้อำนวยการกลาง/เลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เมื่อวานนี้ (29 ม.ค. 68) ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมฯ และได้มีข้อสั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเปิดปฏิบัติการ (activate) กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กรณีไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จึงเป็นที่มาในการประชุมในวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกเพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ฝุ่น PM2.5 โดยสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ภาพรวมของประเทศไทยในวันนี้ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 เริ่มเพิ่มสูงขึ้นทุกพื้นที่ของประเทศ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 31 มกราคม - วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 สถานการณ์ฝุ่นละอองจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นายภาสกร กล่าวต่อว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กรณีไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) โดยยกระดับการดำเนินงานอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในทุกมาตรการ ทั้งการลดปริมาณฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ และการดูแลผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมถึงพิจารณาพื้นที่ออกประกาศกำหนดการควบคุมการเผาล่วงหน้า โดยปัจจุบันได้มีการประกาศควบคุมพื้นที่ห้ามเผาแล้ว 39 จังหวัด พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนเกษตรกรและผู้หาของป่าให้ทราบประกาศล่วงหน้า เพื่อให้รับทราบและปฏิบัติตามกฎหมายห้ามเผา และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการแอบอ้างว่าไม่รู้ประกาศห้ามเผา พร้อมบังคับใช้มาตรการกฎหมายการห้ามเผาอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด ตรวจตรา ควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือเผาในที่โล่งทุกประเภท ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ในช่วงระยะ 3 เดือน หรือ 90 วัน ต่อจากนี้ ต้องห้ามเผาโดยเด็ดขาด กรณีสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ให้พิจารณาประกาศใช้มาตรการ Work From Home โดยพิจารณาจากการพยากรณ์สภาพอากาศล่วงหน้า ตลอดจนขอความร่วมมือหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งสำนักงานเกษตรจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านสื่อสารประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะการห้ามเผาในพื้นที่ ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
“นอกจากนี้ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กรณีไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ยังมีข้อสั่งการให้ทุกจังหวัด จัดกิจกรรม Kick Off เคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมย์ร่วมกัน ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. ทุกพื้นที่ โดยใช้กลไกท้องถิ่นและท้องที่ลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและสร้างจิตสึกนึกให้กับประชาชนร่วมกันไม่เผาเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนส่วนรวม ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะประชุมเปิดปฏิบัติการ (activate) กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กรณีไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เป็นประจำทุกวัน (วันจันทร์ - วันศุกร์) เวลา 10.00 น. ทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online กับหน่วยงานภายใต้ บกปภ.ช. และหน่วยงานในระดับพื้นที่ ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการอำนวยการ สั่งการ วางแผน ติดตามสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)” อธิบดี ปภ. กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย X @DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง