แก็งเงินกู้ดอกโหด ควงปืนบุกทวงหนี้ในโรงเรียน แบบไม่ยำเกรงกฎหมาย ถูกเปิดเผย หลังที่ นายแมน (นามสมมุติ) เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน หลังถูกแก็งค์เงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด โทรศัพท์มาด่าว่าเข้าไปยุ่ง และข่มขู่ จนรู้สึกกลัวจะไม่ปลอดภัย เพียงเพราะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ แก็งค์เงินกู้โหดนี้ ถือปืนบุกเข้ามาทวงหนี้ ลูกหนี้ซึ่งเป็นครู ภายในโรงเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 28 มกราคม ของแก็งค์เงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด ร้อยละ 60 ต่อสัปดาห์ ที่พากันบุกเข้าไปในโรงเรียนเอกชนดังแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน เพื่อทวงเงินจากครูลูกหนี้ ขณะนอนเวรเฝ้าโรงเรียนในตอนกลางคืน แบบไม่ยำเกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งในคลิปมีการพูดคุยทวงเงิน จำนวนเงิน 5,000 บาท แต่ลูกหนี้มีเงินเพียง 2,000 บาท และพยายามเจรจาขอชำระเท่าที่มีก่อน แต่ฝ่ายแก็งค์เงินกู้ไม่ยอม เดินออกไปที่รถและกลับมาพร้อมปืน และขู่บอกว่าไม่ยิงให้ตาย จะยิงให้พิการ พร้อมประกาศลั่นไม่กลัวใคร และคิดค่าติดตาม ล่าช้าเพิ่มอีกชั่วโมงละ 300 บาท และลูกหนี้ ขวัญผวา แอบไลน์ขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรด้วยกัน ที่อยู่ชั้น 2 ให้แจ้งตำรวจเข้าช่วยระงับเหตุ สุดท้ายปล่อยแก็งค์เงินกู้ไปพร้อมกับให้ยึดรถลูกหนี้เป็นทรัพย์ค้ำประกันด้วย
ด้าน เจ้าหน้าที่เพื่อนครูลูกหนี้ เล่าว่า วันเกิดเหตุ แก็งเงินกู้มาทั้งหมด 3 คน ติดตามทวงเงินหนี้จากเพื่อนครู ซึ่งตนได้รับข้อความ ขอความช่วยเหลือ ให้แจ้งตำรวจ จึงรีบโทรแจ้งไป 191 ซึ่งไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมา พูดคุยกันสักพักก่อนปล่อยแก็งค์เงินกู้ไปพร้อมกับให้ยึดรถยนต์เพื่อนครูลูกหนี้เป็นหลักประกัน ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึก งง เหมือนกันว่าทำไมไม่มีการจับกุม และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีโทรศัพท์จากแก็งค์เงินกู้ โทรเข้ามาด่า ข่มขู่ ตนเองที่เข้าไปยุ่ง โทรไปแจ้งความ ทำให้ตนเองรู้สึกกลัวจะไม่ปลอดภัย และรู้สึกสงสัยว่าแก็งค์เงินกู้รู้เบอร์โทรศัพท์ของตนเองได้อย่างไร ทั้งที่วันเกิดเหตุตนนั้นโทรแจ้งตำรวจ 191
ซึ่งต่อมาเวลา 20.00 น. ของวันที่ 29 ม.ค. 68 เจ้าที่ตำรวจได้ติดตาม และจับกุมเจ้าหนี้มหาโหดดังกล่าว พร้อมเพื่อนที่ไปด้วยกันตามภาพจากกล้องวงจรปิด ได้พร้อมอาวุธของกลาง โดยทั้งคู่ปฏิเสธเป็นแก็งค์เงินกู้ โดยอ้างว่ารู้จักกันดีกับลูกหนี้ และเป็นการยืมเงินกันเท่านั้น เจ้าหน้าที่บันทึกเป็นหลักฐาน นำส่ง ร.ต.ท.กิตติพงศ์ ปัญญามูล พงส.สภ.เมืองน่าน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีและพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และข่มขู่ใด้ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ในระหว่างการสอบสวน แจ้งขอหาเพิ่ม ภายหลัง
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ประชาชนต่างวิพากษ์ วิจารณ์ การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการตั้งข้อกล่าวหาที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับพฤติกรรมของแก็งค์เงินกู้ รู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่ผู้ปกครองโรงเรียนเอกชนดังกล่าว ก็มีความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์นี้ หวั่นลูก หลานไปเรียนจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากไม่ได้มีครูเพียงคนเดียว ที่เป็นหนี้นอกระบบ ดอกมหาโหดนี้ และอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อีก